ผู้จัดการรายวัน360- “นินจา แวน” เดินแผนรุกหนักตลาดส่งด่วนพัสดุในไทย ชู 3 กลยุทธ์หลัก ดันเป้าปีนี้ปริมาณส่งพัสดุต้องโต 3 เท่า เร่งผุดศูนย์คัดแยก-ศูนย์กระจายสินค้า-จุดรับส่งพัสดุ ยังไม่มีการขยายบริการจัดส่งบริการอื่น
มร. เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทยจำกัด ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า บริษัทฯต้ังเป้าหมายไว้ว่าปี2564นี้จะเติบโตในแง่ของปริมาณการขนส่งพัสดุจำนวนชิ้นมากถึง3เท่าหรือ 300% จากปีที่แล้ว โดยปีที่แล้วมีปริมาณการจัดส่งประมาณ 1 แสนชิ้นต่อวัน แต่ขณะนี้คาดว่าเพิ่มเป็น2-3 แสนชิ้นต่อวัน
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดระบาดหนักขึ้น ส่งผลให้การซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซผ่านออนไลน์และส่งผลให้ธุรกิจจัดส่งแบบเอ็กซ์เพรสเติบโตตามไปด้วย โดยในไทยสัดส่วนของตลาดช่องทางอีคอมเมิร์ซยังต่ำเพียง 3% ของภาคค้าปลีกทั้งหมดเท่านั้นเอง ขณะที่ในจีนมีสัดส่วนจากอีคอมเมิร์ซมากถึง 25% จึงทำให้ตลาดในไทยยังมีโอกาสอีกมากเช่นเดียวกับในตลาดอื่นในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่นินจาแวนทำธุรกิจอยู่คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย
โดยบริษัทฯวางแผนการดำเนินธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การเสริมความแข็งแกร่งโครงสร้างพื้นฐาน, 2. การเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตของเอสเอ็มอี และ
3. การมุ่งเน้นการยกระดับบริการที่มั่นใจได้ ทั้งนี้จะเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีเป็นหลักมากกว่า 90% ของพอร์ตโฟลิโอบริษัท เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของธุรกิจในไทย และมีจำนวนมาก
แผนโดยรวมปี2564นี้คือ จะเปิดศูนย์กระจายสินค้าในระดับภูมิภาคอย่างน้อยอีก 100 แห่งทั่วไทย หรือประมาณ 60% ของปีที่แล้วจากปัจจุบันมีประมาณ 200 แห่ง, จะเพิ่มพนักงานอีก 1,000 อัตราเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในศูนย์กระจายสินค้าเพื่อให้สามารถรับและจัดส่งพัสดุได้รวดเร็วยิ่งขึ้น, การเพิ่มจุดบริการรับส่งพัสดุ 200 แห่ง เน้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล ภาคกลางและภาคตะวันตก เป็นหลัก มีทั้งลงทุนเองและมีพาร์ทเนอร์ และการเพิ่มศูนย์คัดแยกพัสดุ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ฯหลัก 1 แห่ง และศูนย์ย่อยอีก 15 แห่งในไทย
ล่าสุดนินจาแวน ประเทศไทยวางแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการการขนส่ง โดยการเปิดศูนย์คัดแยกพัสดุภายใต้พื้นที่กว่า 30 ไร่ หรือเท่ากับสนามฟุตบอล 7 สนาม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ศูนย์คัดแยกพัสดุแห่งนี้จะสามารถรองรับพัสดุได้ถึง 800,000 ชิ้นต่อวัน และยังช่วยให้การจัดส่งจากกรุงเทพฯ ถึงมือผู้รับในวันถัดไปครอบคลุมไปยังพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก
มร.เพียซ กล่าวว่า นินจาแวน ประเทศไทย มุ่งเน้นการให้บริการธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มมากขึ้นในช่วงภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยพบว่าคนไทยซื้อของออนไลน์โดยเฉลี่ย 1 ครั้งทุก 2 วัน
ในช่วงปี 2564 นินจาแวน ประเทศไทยได้ลงทุนในเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมและปรับปรุงระบบการดำเนินงาน เพื่อยกระดับการบริการที่มั่นใจได้ให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นแผนการดำเนินธุรกิจของนินจาแวนในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามนินจาแวนในไทย มีเพียงบริการจัดส่งพัสดุเท่านั้น แต่ยังไม่มีการบริการรับส่งสินค้าประเทอื่น
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็กโดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเฉพาะราย ซึ่งปกติจะมีบริการให้เฉพาะลูกค้ารายใหญ่หรือมีการจัดส่งพัสดุจำนวนมากเท่านั้น ซึ่งบริการนี้จะช่วยแก้ปัญหาด้านการขนส่งได้รวดเร็วขึ้นและยังถือว่าเป็นการยกระดับการบริการให้ลูกค้าทุกรายไม่ว่ารายใหญ่หรือรายย่อยสามารถเข้าถึงบริการของนินจาแวนได้อย่างทั่วถึง ผ่านศูนย์บริการลูกค้าช่องทางแชท LINE ซึ่งเราได้ปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารเพื่อช่วยแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือลูกค้าระหว่างการจัดส่งพัสดุ เพื่อเพิ่มความสะดวกและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มร. เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า “เราตั้งเป้าที่จะโดดเด่นในฐานะผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และจากการประเมินผลการดำเนินงานเราเชื่อว่าการมอบบริการที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ เราให้การสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยีและฝ่ายบริการลูกค้าที่ดูแลธุรกิจขนาดใหญ่มาให้บริการลูกค้าที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางรวมถึงขนาดย่อยหรือเอสเอ็มอี เพื่อการเข้าถึงบริการอย่างมีประสิทธิภาพ เราเชื่อว่าแนวทางการดำเนินงานของนินจาแวน ประเทศไทยจะช่วยขจัดความยุ่งยากในการการส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีหมดห่วงด้านการจัดส่งและสามารถมุ่งเน้นด้านการสร้างธุรกิจให้เติบโตต่อไป
ทั้งนี้ นินจาแวน ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขใดๆเกี่ยวกับ ผลประกอบการ ปริมาณการจัดส่ง และงบลงทุนตามที่ได้กล่าวไว้
