นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ถือเป็นวิกฤตหนักสุดของประเทศไทย ที่มียอดผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่าวันละหมื่นคน ส่งผลกระทบต่อประชาชนและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้ง โรงแรมปิดกิจการชั่วคราวกว่า 20% ร้านค้าร้านอาหาร ปิดตัวลงไปกว่า 50,000 ร้าน
รวมถึงล่าสุด สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้มีการปรับปรุงรายชื่อประเทศที่สามารถเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มอียูได้ โดยประเทศไทย ถูกถอดจากบัญชี เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อสูงเกินเกณฑ์ ซึ่งถ้าปล่อยให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างนี้ต่อไป จะส่งผลเสียอย่างรุ่นแรงตามมาในอนาคตและยากจะฟื้นตัวให้กลับมาได้โดยเร็ว
ดังนั้น ภาครัฐบาล ควรต้องเร่งดำเนินการหามาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้ง โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ทันไตรมาสที่ 4 ของปี2564นี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่สำคัญ ถ้าหากช้ากว่านี้ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะมีการสูญเสียเพิ่มขึ้น และจะส่งผลเสียเป็นโดมินิโนเอฟเฟค
โดยแนวทางหลักที่ภาครัฐบาลต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือ “มาตรการพักชำระหนี้หรือการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” พัฒนาโครงการสินเชื่อที่มีอยู่เดิมด้วยการขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ ตั้งเงื่อนไขให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเอื้อต่อผู้ประกอบการ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยง่าย ทันต่อการนำมาแก้ปัญหา รวมไปถึงมาตรการอื่นๆ อาทิ มาตรการชดเชยรายได้กลุ่มแรงงานด้านบริการ มาตรการลดหย่อนค่าสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า เพื่อช่วยลดปัญหาด้านการขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ของผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม
นอกจากนี้จำเป็นต้องเร่ง “จัดหาวัคซีน” ให้เพียงพอ รวดเร็ว และเร่งการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมจำนวนประชากรประเทศไทย รวมถึงบุคลากรในธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเร็ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการแพร่ระบาดและการเสียชีวิต อีกทั้งยังจะส่งผลดีต่อการจ้างงาน และกำลังซื้อของแรงงานที่เป็นผลพลอยได้ตามมา
นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “หากทางภาครัฐบาล ได้เข้ามาช่วยเหลือ และเร่งดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ได้โดยเร็ว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยลดการสูญเสีย ลดการปิดตัว ของธุรกิจการท่องเที่ยว และจะสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาได้โดยเร็ว อีกทั้งยังจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาเริ่มคึกคักได้อีกครั้ง”