ผู้จัดการรายวัน 360 - สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ธุรกิจในเครืออาร์เอส กรุ๊ป มองเห็นโอกาสในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ที่เติบโตต่อเนื่อง สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล เดินหน้าขยายฐานผู้ชมกลุ่มนี้ด้วยการสร้างพาร์ตเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีอยู่ รวมถึงผลิตคอนเทนต์ใหม่เพื่อนำไปฉายบนช่องทางของวิดีโอสตรีมมิ่งเพื่อเพิ่มรายได้
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในช่วงที่ผ่านมาแม้จะหดตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่ทำให้ที่ผ่านมาช่อง 8 สามารถเกาะกลุ่มผู้นำทีวีดิจิทัลได้ด้วยจุดยืนและจุดแข็งที่ชัดเจน ทั้งข่าว ละคร วาไรตี และมวย ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
โดยยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ “เก้าอี้สี่ขา” ในการบริหารความเสี่ยง ที่สร้างรายได้แบบค้ำยันซึ่งกันและกัน ด้วยการวางเป้าหมายสร้างรายได้ช่อง 8 ให้แข็งแรงจากศักยภาพภายในอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพารายได้ช่องทางใดมากเกินไป และมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่างจริงจังเพื่อสร้างการเติบโตตามที่ตั้งไว้
นางสาวนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า “ขณะนี้ช่อง 8 จับมือกับพันธมิตร OTT ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น WeTV และ AIS PLAY เสิร์ฟซีรีส์ละครดังทั้ง Finished Program หรือละครที่กำลังฉายอยู่ ก็สามารถรับชมได้ทันทีหลังจากละครฉายจบทางหน้าจอ รวมแล้วกว่า 20 เรื่อง ทั้งยังมีภาพยนตร์ดังในอดีตตั้งแต่ยุค 90 และออริจินัลคอนเทนต์อีกกว่า 50 เรื่อง สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้ทั้งทีวีมีเรตติ้งสูงขึ้น และตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ได้รับความสนใจและเติบโตต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์ On air และ on demand กับบริการสตรีมมิ่งไม่ว่าเมื่อใดหรือที่ไหนก็ได้โดยไม่จำกัด
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และเพิ่มเรตติ้งให้กับช่อง 8 เราจึงเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายทั้งทางหน้าจอทีวี และผู้ชมผ่านวิดีโอสตรีมมิ่ง สำหรับทีวีเน้นที่การจัดสรรคอนเทนต์ที่หลากหลายให้เหมาะในแต่ละช่วงเวลาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมได้อย่างแม่นยำ ส่วนทาง OTT จะมีออริจินัล คอนเทนต์ที่เป็นซีรีส์หลากหลายแนว เช่น ซีรีส์วาย ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี และซีรีส์พีเรียด อย่างไรก็ตาม ช่อง 8 เน้นว่าจะต้องฉายได้ทั้งบนหน้าจอทีวีและในวิดีโอสตรีมมิ่ง ทั้งหมดนี้เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ของช่อง 8 ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ล่าสุด ช่อง 8 ได้นำละครท็อปฮิตลงในแพลตฟอร์มของ WeTV เช่น เรือนร่มงิ้ว ขุมทรัพย์ลำโขง เรยา และอื่นๆ อีกมากมายรวมแล้วกว่า 10 เรื่อง และร่วมมือกับ WeTV ปลุกกระแสซีรีส์จีนฟีเวอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยนำซีรีส์จีนพากย์ไทยเรื่องดัง ‘สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย’ ที่มียอดการรับชมสูงสุดบนแอปพลิเคชัน WeTV ประเทศไทยในปี 2563 และยังเป็นซีรีส์ที่มียอดการรับชมมากกว่า 8 พันล้านวิวในประเทศจีน มาฉายโดยเริ่มตอนแรกในเดือนสิงหาคมนี้
ตามด้วยซีรีส์จีนเรื่องอื่นๆ อีกมากมายรวม 10 เรื่อง เช่น ‘ข้านี่แหละองค์หญิงสาม’ และ ‘ลิขิตจันทรา’ เป็นต้น เพื่อดึงผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ และขยายฐานไปสู่ผู้ชมที่ชื่นชอบคอนเทนต์จีนให้เข้ามารับชมบนหน้าจอให้มากขึ้น รวมไปถึงเตรียมจัดแคมเปญพิเศษให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรางวัล และสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมายผ่านทาง WeTV และช่อง 8 โดยคาดว่าการนำซีรีส์จีนมาฉายบนหน้าจอช่อง 8 ในครั้งนี้ จะมียอดผู้ชมเพิ่มขึ้น 15%
“นอกจากนี้ ทางช่องยังพูดคุยกับพันธมิตรอย่าง AIS PLAY เตรียมผลิตออริจินัลซีรีส์ “เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ เพื่อเตรียมออกอากาศบนแพลตฟอร์ม AIS PLAY และทางหน้าจอช่อง 8 อีกด้วย การร่วมมือกับพันธมิตร OTT ชั้นนำต่างๆ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุยทธ์ “เก้าอี้สี่ขา” ซึ่งทำรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ช่อง 8 มากถึง 37% ในไตรมาสที่ผ่านมา” นางสาวนงลักษณ์กล่าว
นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “WeTV มุ่งมั่นนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพจากหลากหลายพื้นที่ทั่วเอเชียเพื่อมอบความบันเทิงแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งการสานต่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับช่อง 8 ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์ไทยให้มีความหลากหลายครบรสมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ของ WeTV ให้ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และกลุ่มคนดูที่ชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงทางทีวีดิจิทัล (ออนแอร์) โดยช่อง 8 ถือเป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านการผลิตคอนเทนต์ และการเข้าถึงฐานผู้ชมที่มีอยู่ทั่วประเทศโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่และต่างจังหวัด”
“จากผลตอบรับที่ดีในการจับมือกับช่อง 8 นำภาพยนตร์ดังในอดีตตั้งแต่ยุค 90 และละครจากอาร์เอสมานำเสนอให้แก่ผู้ใช้บริการบนแอปพลิเคชันในปีที่ผ่านมา WeTV จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการสานต่อความร่วมมือเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นโดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญภายใต้การผนึกกำลังในครั้งนี้ คือ การปลุกกระแสซีรีส์จีนฟีเวอร์ด้วยการนำซีรีส์จีนพากย์ไทยเรื่องดังขึ้นฉายทางโทรทัศน์ตามผังรายการของช่อง 8 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ WeTV ได้นำคอนเทนต์ออกฉายแบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-platform)”
“ประเดิมเรื่องแรกด้วยซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์อย่าง ‘สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย’ ซึ่งเป็นซีรีส์จีนที่มียอดการรับชมสูงสุดบนแอปพลิเคชัน WeTV ประเทศไทยในปี 2563 และยังเป็นซีรีส์ที่มียอดการรับชมมากกว่า 8 พันล้านวิวในประเทศจีน ตามด้วยซีรีส์จีนเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ‘ข้านี่แหละองค์หญิงสาม’ และ ‘ลิขิตจันทรา’ เป็นต้น และนอกจากนี้ WeTV ยังเดินหน้าขยายฐานกลุ่มผู้ชม เสริมความแข็งแกร่งพอร์ตโฟลิโอคอนเทนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนำละครไทยเรื่องดังจากช่อง 8 จำนวน 12 เรื่องมาออกอากาศบนแพลตฟอร์ม WeTV ซึ่งเรามองว่าละครโทรทัศน์ของทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เป็นที่นิยมในยุคนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีความหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ทุกกลุ่ม และมีเสน่ห์บ่งบอกได้ถึงเอกลักษณ์ของทางช่อง 8 โดยเฉพาะ เพื่อเอาใจแฟนละครไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ได้เลือกรับชมกันแบบจุใจ ดูฟรีได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย เรามั่นใจว่าการสานต่อการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าถึงฐานผู้ชมในวงกว้างยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นางสาวกนกพรกล่าว
