ผู้จัดการรายวัน 360 - ททท.ยันแผนท่องเที่ยวเปิดพื้นที่ตามเดิม แต่อาจจะปรับตามสถานการณ์ คาดพื้นที่บุรีรัมย์อาจต้องเลื่อน เผยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วรวม 8,377 คน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวว่า แผนการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในประเทศในแต่ละพื้นที่ยังคงดำเนินการไปตามแนวทางที่วางไว้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในภาพรวม แต่อาจจะมีการปรับไปตามสถานการณ์ และความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งตอนนี้เราก็ดำเนินการไปแล้ว 2 พื้นที่ คือ ภูเก็ตแซนด์บ็อซ์ กับ สมุยพลัส ส่วนพื้นที่อื่น เช่น บุรีรัมม์ อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะเราทำแผนควบคู่ไปกับการจัดการแข่งขันโมโตจีพี ซึ่งการแข่งขันอาจจะมีการเลื่อนออกไปอีกจากเดิมจะจัดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดเป้าหมายตามแผนการเปิดประเทศภายใน 120 วันของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ททท.คาดการณ์ว่าปี 2564 ที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 อยู่นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยประมาณ 3 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 300,000 ล้านบาท ขณะที่ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 332,000 ล้านบาท และเป็นนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ ปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 100 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 550,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีนักท่องเที่ยวไทยจำนวน 90.52 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 482,468 ล้านบาท
รวมการสร้างรายได้ปีนี้อยู่ที่ 850,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 814,468 ล้านบาท
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตัวเลขล่าสุดของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เพียงวันเดียวมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยเข้าภูเก็ตจำนวน 915 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 911 คน ตรวจครั้งที่ 2 จำนวน 137 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งที่ 3 จำนวน 103 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยมีสถิติผู้ติดเชื้อใหม่รายวันจำนวน 1 คนในประเทศ และมีจำนวนเที่ยวบินรวม 6 เที่ยวบินที่เข้ามาภูเก็ต คือ การบินไทย 2 เที่ยวบิน, กาตาร์แอร์เวย์ส, เอมิเรตส์ แอร์เวย์ส, เอธิฮัดแอร์เวย์ส และสิงคโปร์แอร์ไลน์ส
ขณะที่ตัวเลขสะสมรวมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1-18 กรกฎาคม 2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตสะสมแล้วรวมจำนวน 8,377 คน โดยที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด 8,357 คน รอผลตรวจ 4 คน และคัดกรองพบ 16 คน ส่วนตรวจครั้งที่ 2 จำนวน 4,446 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 4,441 คน คัดกรองพบ 5 คน และการตรวจครั้งที่ 3 จำนวน 1,770 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 1,769 คน คัดกรองพบ 1 คน
สถิติผู้ติดเชื้อสะสม 108 คน เป็นในประเทศ 92 คน และต่างประเทศ 16 คน มีจำนวนเที่ยวบินรวม 79 เที่ยวบิน แบ่งเป็น การบินไทย 15 เที่ยวบิน, กาตาร์แอร์เวย์ส 12 เที่ยวบิน, เอมิเรตส์ 13 เที่ยวบิน, เอธิฮัด แอร์เวย์ส 10 เที่ยวบิน, อีแอล เอแอล 8 เที่ยวบิน, สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส 18 เที่ยวบิน และเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 3 เที่ยวบิน
โดยเป็นจำนวนคืนของผู้เข้าพัก SHA PLUS ที่มียอดการจองตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2564 รวม 229,716 แบ่งเป็น เดือนกรกฎาคมมีจำนวน 185,508 สัดส่วน 80%, เดือนสิงหาคมจำนวน 41,108 สัดส่วน 18% และเดือนกันยายน จำนวน 3,100 สัดส่วน 1%
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากที่สุด 5 ชาติแรก คือ 1. อเมริกา จำนวน 1,165 คน, 2. อังกฤษ จำนวน 1,058 คน, 3. อิสราเอล จำนวน 907 คน, 4. เยอรมนี จำนวน 529 คน และ 5. ฝรั่งเศส จำนวน 478 คน
ส่วนจังหวัดที่นักท่องเที่ยวกลุ่มแซนด์บ็อกซ์ที่อยู่ในภูเก็ตจนครบกำหนดแล้วเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่นสูงสุด คือ 1. สุราษฎร์ธานี จำนวน 63 คน, 2. พังงา จำนวน 25 คน, 3. กระบี่ จำนวน 19 คน, 4. ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 10 คน และ 5. ชลบุรี จำนวน 7 คน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-15 กรกฎาคม 2564 มีสายการบินจำนวน 6 สายการบิน รวมเที่ยวบิน 30 เที่ยวต่อสัปดาห์ และระหว่างวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 8 สายการบิน เพิ่มกัลฟ์แอร์ และเตอร์กิช แอร์ไลน์ส รวมเที่ยวบิน 34 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
