ผู้จัดการรายวัน 360 - เอส แอนด์ พีเดินหน้ารับปีแห่งความท้าทายโควิด แผนลงทุนยังลุยต่อ ทั้งเปิดเบเกอรีชอป และเดลตา ซุ่มนิวโมเดล ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ ‘เอส แอนด์ พี มาร์เก็ตเพลส พลิกโฉมจากร้านนั่งรับประทานที่ห้ามนั่ง 130 สาขาทั่วประเทศ เป็นเหมือนตลาดนัดขายสินค้าอัดโปรโมชันกระตุ้นลูกค้าจับจ่ายซื้อกลับบ้าน
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ปรับตัวตลอดเวลา และปี 2564 นี้ยังคงเป็นปีที่ท้าทายของบริษัทอย่างมาก จากปีที่แล้วที่เป็นปีที่พวกเราต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและยังคงทำกำไรสุทธิได้ประมาณ 100 กว่าล้านบาท ก็ยังถือว่าดีในสถานการณ์เช่นนี้
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2564 นี้มียอดขาย 1,158.6 ล้านบาท และมีกำไร 79.3 ล้านบาท เช่น เมนูข้าวแช่ สามารถทำยอดขายได้ถึง 26 ล้านบาทในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เพราะเราปรับทุกอย่างทั้งแพกเกจจิ้ง ราคาที่ขาย 135 บาท เป็นชุดที่เหมาะต่อดีลิเวอรี จากเดิมราคา 298 บาท เป็นชุดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการรับประทานในร้าน หรือการออกเมนูใหม่ที่เป็นเซตสำหรับอาหารจานหลัก
ขณะที่ยอดขายดีลิเวอรีก็เติบโตดี โดยช่วงไตรมาสแรกปี 2564 นี้ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2563 พบว่าสัดส่วนการขายมาจากดีลิเวอรีเพิ่มเป็น 13% จากเดิมมีสัดส่วน 9%, ช่องทางนั่งรับประทานในร้าน ลดเหลือ 14% จากเดิมมี 21% และช่องทางเทกอะเวย์ เพิ่มเป็น 73% จากเดิมมีสัดส่วน 70%
นายอรรถกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เอสแอนด์พีปรับกลยุทธ์เน้นช่องทางดีลิเวอรีมากขึ้น โดยปี 2564 นี้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมในส่วนดีลิเวอรีไว้เป็น 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 500 ล้านบาท ซึ่งนอกจากดีลิเวอรีในกรุงเทพฯ แล้ว ยังขยายในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่อีกด้วย ผ่านเครือข่ายของเราที่มีมากถึง 500 สาขาทั่วประเทศ โดยเมษายนที่ผ่านมาดีลิเวอรีเอสแอนด์พีเติบโต 20% ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ดีลิเวอรีของเราโต 70% อัตราเฉลี่ยต่อบิลประมาณ 700-900 บาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ของเอสแอนด์พีในปีนี้ตั้งเป้าไว้แบ่งเป็น นั่งรับประทานในร้าน 25% เทกอะเวย์ 60% และดีลิเวอรี 25%
ส่วนแผนงานปีนี้ที่กำหนดไว้ยังคงเดินหน้าไปตามแผนในส่วนของแนวทางหลัก แต่ก็มีการปรับบ้างตามสถานการณ์ โดยมีแผนจะเปิดร้านเบเกอรีชอป 5 แห่ง แต่สามารถเปิดได้มากกว่าแผนแล้วถึง 8 แห่ง ส่วนแผนเปิดเดลตาหรือจุดส่งอาหาร วางแผนเปิดครึ่งปีแรกไว้ที่ 15 จุดซึ่งเปิดได้ครบแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังวางแผนเปิดอีก 16 จุด ซึ่งได้ทำเลและพื้นที่เรียบร้อยแล้ว รอทยอยเปิด ซึ่งทั้งปีนี้จะมีครบ 31 จุด
นอกจากนั้นยังมีการทดลองธุรกิจโมเดลใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและทดลองเปิดบริการ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ล่าสุดนายอรรถกล่าวว่า ผลกระทบจากการปิดให้บริการนั่งรับประทานอาหารภายในร้านครั้งล่าสุดนี้ ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ โดยเปิดแคมเปญ ‘เอส แอนด์ พี มาร์เก็ตเพลส’ ที่เปลี่ยนสาขาร้านอาหารเอส แอนด์ พี จำนวน 130 สาขาทั่วประเทศ
โดยการปรับใช้พื้นที่รับประทานอาหารในร้านให้เป็น ‘ตลาดนัด เอส แอนด์ พี แบบเต็มรูปแบบ’ จัดวางผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทให้น่าสนใจ แยกประเภทและหมวดหมู่ถึง 8 โซน ลูกค้าสามารถเดินจับจ่ายซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งเมนูอาหารพร้อมรับประทาน เบเกอรีอบสด เค้กปอนด์ ขนมกินเล่น ขนมไทย ของหวาน ไอศกรีม ของฝาก เครื่องดื่มบลูคัพ สินค้าโปรโมชันประจำสัปดาห์ และยังมีสินค้ายกลังสำหรับซื้อไปใช้ช่วงเวิร์กฟรอมโฮมราคาพิเศษ รวมผลิตภัณฑ์เอส แอนด์ พี ที่จัดโปรโมชันมากกว่า 350 รายการ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษเพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนเดินตลาดนัด เช่น ซุ้มขายไอศกรีม ซุ้มย่างไส้กรอก ซุ้มนึ่งขนมจีบซาลาเปา ซุ้มอบเบเกอรี รวมถึงขายสินค้าแบรนด์อื่นๆ ในเครือ เช่น Maisen / Patara / Umenohana สำหรับแคมเปญนี้นอกจากจะสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเดิมของเอส แอนด์ พี แล้ว เรายังสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยสร้างการรับรู้แคมเปญผ่านสื่อทีวีดิจิทัล สื่อออนไลน์ รวมถึงสื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขายร้านเอส แอนด์ พี โดยได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ช่วงระหว่างวันที่ 1-7 กรกฎาคมที่ผ่านมาเติบโตขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับยอดขายของปีก่อน รวมทั้งยอดขายจากสาขาเพิ่ม 6% จากเดือนมิถุนายน
สำหรับโปรโมชันเอส แอนด์ พี ได้แก่ เมนูอาหารจานเดียวพร้อมรับประทานซื้อ 1 ฟรี 1 / ไส้กรอกที่ร่วมรายการซื้อ 1 ฟรี 1 / เมนูปลากะพง 298 บาท / เมนูกับข้าวไทยและเมนูเซตอาหารกับข้าวไทยมีถึง 20 เมนู ราคา 100 บาท / เค้กเลเยอร์ใบเตยขนาด 2 ปอนด์ ราคา 590 บาท / เค้กนุ่มเอส แอนด์ พี ซื้อ 3 กล่อง ฟรี 1 กล่อง / พายคละรส ราคา 5 ชิ้น 100 บาท / กลุ่มซาลาเปาราคาเริ่มต้น 48 บาท / เครื่องดื่มบลูคัพราคาเริ่มต้น 69 บาท / คุกกี้เดลี่คละรส ราคายกแพก 6 กระป๋อง 330 บาท และสินค้ากลุ่มซองราคายกแพก เริ่มต้น 120 บาท มีโปรโมชันแลกซื้อราคาพิเศษ 80 บาท เมื่อซื้อสินค้าในร้านครบ 250 บาท ระยะเวลาโปรโมชัน 1 กรกฎาคม 2564-15 สิงหาคม 2564 ที่สาขาร้านอาหารเอส แอนด์ พี ที่ร่วมรายการ
