นายภาสกร ดารารัตนโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินกิจการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะภายใต้ชื่อ “แค็บบ์ (CABB)” กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้หลายคนกังวลเรื่องการติดเชื้อระหว่างเดินทางไปบริจาคโลหิต ส่งผลให้เกิดวิกฤตโลหิตสำรองขาดแคลน บริษัทฯ จึงได้ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดโครงการ “บริจาคโลหิต แค็บบ์คิดคนละครึ่ง” โดยลดค่าโดยสาร 50% ทั้งไปและกลับให้แก่ผู้บริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2564 เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จำนวน 2,000 สิทธิ์
เพียงโทร.ไปลงทะเบียนที่สภากาชาดไทย เบอร์ 0-2256-4300 หรือ 0-2263-9600-99 ต่อ 1760, 1770, 1752 เพื่อรับโค้ดส่วนลดสำหรับเดินทางไปที่สภากาชาดไทย และเมื่อบริจาคเสร็จแล้วสามารถขอรับโค้ดส่วนลดเพื่อเดินทางกลับได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์สภากาชาดไทย ผู้บริจาคสามารถเรียกใช้บริการแค็บบ์ผ่าน CABB Application ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android ได้ที่ http://onelink.to/nm9qus โดยบริษัทฯ ได้นำรถแค็บบ์จำนวนหนึ่งไปคอยให้บริการที่สภากาชาดไทยด้วย
“โครงการบริจาคโลหิต แค็บบ์คิดคนละครึ่ง จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจทำให้มีจำนวนผู้บริจาคโลหิตมากยิ่งขึ้น เพราะแค็บบ์เป็นแท็กซี่ที่มีมาตรการรักษาความสะอาดที่ดี มีระบบป้องกันการสัมผัส และเป็นรุ่นเดียวที่มีแผงกั้นใสแยกส่วนระหว่างห้องคนขับกับห้องผู้โดยสาร พร้อมระบบแอร์แยกส่วน มีระบบอินเตอร์คอมสำหรับสื่อสารกับคนขับ และใช้ระบบชำระค่าโดยสารแบบ Cashless Payment ผ่านบัตรเดบิต บัตรเครดิต และโมบายล์แบงกิ้ง ซึ่งจะช่วยลดการสัมผัส ทำให้คลายความกังวลใจว่าจะติดเชื้อโควิดระหว่างเดินทาง” นายภาสกรกล่าว
ในโอกาสที่จัดโครงการบริจาคโลหิต แค็บบ์คิดคนละครึ่ง บริษัทฯ ยังได้รณรงค์ให้ทีมงานที่มีสุขภาพแข็งแรงไปร่วมบริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทยด้วย เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตในสถานการณ์ที่โลหิตขาดแคลน โดยในเบื้องต้นมีผู้บริหาร พนักงาน เอเชีย แค็บ และคนขับรถแค็บบ์ (CABB Drivers) เข้าร่วมบริจาค
ทางด้าน นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีพันธกิจในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพ เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยโลหิตที่ได้รับบริจาคจะจ่ายให้แก่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ร้อยละ 60 และส่งไปยังต่างจังหวัดร้อยละ 40 ซึ่งในปัจจุบันผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับโลหิตร้อยละ 77 เป็นผู้ที่สูญเสียโลหิตเฉียบพลัน ได้แก่ ผู้ป่วยอุบัติเหตุ ผู้ป่วยผ่าตัด ซึ่งมักจะต้องใช้โลหิตปริมาณมาก ส่วนที่เหลือร้อยละ 23 ใช้กับผู้ป่วยโรคเลือดที่ต้องการรับโลหิตต่อเนื่องตลอดชีวิต
โดยเป้าหมายในการจัดหาโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ คือ 2,500-3,000 ยูนิตต่อวัน เพื่อให้มีโลหิตเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยทั่วประเทศ แต่จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ปริมาณโลหิตลดลง จนเกิดภาวะโลหิตขาดแคลนไม่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อสภากาชาดไทยทราบว่าเอเชีย แค็บ จัดโครงการบริจาคโลหิต แค็บบ์คิดคนละครึ่ง พร้อมทั้งรณรงค์ให้ทีมงานมาร่วมกันบริจาค ก็รู้สึกยินดีและขอบคุณผู้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ทุกคนที่มาร่วมกันรณรงค์ให้มีผู้มาบริจาคโลหิต และเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอโลหิตอยู่ทั่วประเทศ