ค้าปลีกคึกคัก จัดเต็มรับ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ปลุกมู้ดจับจ่ายปั้นยอด

ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มค้าปลีกพาเหรดตอบรับเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ของภาครัฐ หวังกระตุ้นกำลังซื้อและการชอปปิ้ง เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อัดแคมเปญโปรโมชันเต็มที่ หวังช่วงชิงผู้บริโภคจากกลุ่มเป้าหมายกว่า 4 ล้านสิทธิ ท่ามกลางโควิด-19 ยังระบาดหนัก

โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เป็น 1 ใน 4 มาตรการที่ภาครัฐจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายภายในประเทศช่วงครึ่งหลังปี 2564 โดยประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 โดยมีเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 4 ล้านสิทธิผ่าน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และใช้จ่ายชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน G-Wallet ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2564 เพื่อรับ E-Voucher สูงสุด 7,000 บาทต่อคน โดยใช้จ่ายสูงสุด 60,000 บาทต่อคน (ยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิ E-Voucher ไม่เกิน 5,000 บาท/คน/วัน)

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ E-Voucher ในรูปแบบของสิทธิเข้า G-Wallet โดยแบ่งการใช้จ่ายดังนี้ จำนวนเงิน 1-40,000 บาท ได้คืน 10% สูงสุด 4,000 บาท จำนวนเงิน 40,001-60,000 บาท ได้คืน 15% สูงสุด 3,000 บาท และจะได้รับ E-Voucher ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ซึ่ง E-Voucher สามารถใช้สิทธิได้ถึง 31 ธันวาคม 2564 (ไม่สามารถกดเป็นเงินสด หรือโอนเงินออกได้ จะต้องนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าในโครงการเท่านั้น)


*** “เดอะมอลล์” ทุ่ม 40 ล้านจัดใหญ่
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เพื่อขานรับโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ปลุกกำลังซื้อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยมีเป้าหมายเป็นคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงถึง 4 ล้านคนที่จะออกมาชอปกระตุ้นเศรษฐกิจใช้จ่ายวันละ 5,000-7,000 บาท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาทจัดแคมเปญ “ช้อปช่วยไทย #ยิ่งช้อปยิ่งได้” ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน 2564-28 กรกฎาคม 2564 ที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์งามวงศ์วาน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ โดยผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า ร้านค้า ในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และออนไลน์ ลดสูงสุดถึง 80% อัดความพิเศษ ยิ่งช้อปยิ่งได้ เมื่อชอปภายในห้างฯ ครบตามกำหนด รับคืนสูงสุด 7,000 บาท และระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 64-30 ก.ย. 64 ที่เริ่มใช้จ่ายจากโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เมื่อชอปภายในห้างฯ โดยใช้จ่ายผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครบตามที่ภาครัฐกำหนด รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ E-Voucher คืนอีกรวมสูงสุด 7,000 บาท และในส่วนของศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา มอบโปรโมชันสุดคุ้ม กิน-ชอป ภายในศูนย์ฯ ครบตามกำหนดรับคืนรวมสูงสุด 3,200 บาท หรือเลือกรับ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ในศูนย์ฯ ผ่านเป๋าตัง รับบัตรกำนัล และสะสมยอดเป็น 40 Top Spenders รับทองคำ

นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ปยังได้ร่วมสนับสนุนโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 3” ช่วยเหลือ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยระดมร้านอาหาร ร้านค้า รวมทุกสาขากว่า 200 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 3” มาจำหน่ายสินค้า เพื่อรองรับลูกค้าที่ได้รับสิทธิมาจับจ่ายใช้สอย เช่น ร้านอาหารชื่อดัง ที่ Gourmet Eats ทุกสาขา และร้านค้าภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา รวมกว่า 200 ร้านค้า

นางสาววรลักษณ์ได้กล่าวปิดท้ายว่า “เดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมขานรับนโยบายภาครัฐ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ตามแนวคิด “หัวใจไทย ไทยช่วยไทย ไทยสู้ๆ”

โดยการจัดแคมเปญ “ช้อปช่วยไทย #ยิ่งช้อปยิ่งได้” ในครั้งนี้เพื่อช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่ได้รับสิทธิจากโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” และ “คนละครึ่ง เฟส 3” โดยคาดส่งผลให้ทราฟฟิกเฉลี่ยของศูนย์การค้าจะกลับมาคึกคักเพิ่มขึ้น 15% พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง


*** “สยามพิวรรธน์” มอบสิทธิ์เพิ่ม

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ตามที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังปี 2564 นี้ผ่านโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” โดยมีคูปองอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-voucher คืนเงินสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นี้ และสามารถนำ e-voucher ไปใช้จ่ายได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 นั้น

สยามพิวรรธน์เล็งเห็นว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่มีประโยชน์ สามารถช่วยกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าไทย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เข้าร่วมในโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ยินดีให้การต้อนรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการทุกคน และได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้ใช้ G-Wallet ทางแอปพลิเคชันเป๋าตังไว้อย่างเต็มที่

วันสยาม ได้จัดแคมเปญ “OneSiam ยิ่งใช้ยิ่งได้” เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ผู้ร่วมโครงการที่มาจับจ่ายภายใน สยามพรากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ขณะเดียวกัน ไอคอนสยาม ได้จัดแคมเปญ “ไอคอนสยาม ยิ่งใช้ยิ่งได้” โดยเมื่อใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชันเป๋าตังซื้อสินค้าที่ร้านค้าภายในศูนย์ฯ ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ของภาครัฐ ครบ 5,000 บาทขึ้นไป แลกรับสยามกิฟต์การ์ดมูลค่า 500 บาท ได้ทันที สำหรับใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่ร่วมรับสยามกิฟต์การ์ดตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อหนึ่งใบเสร็จ โดยสามารถแลกรับสิทธิ์ได้คนละ 1 สิทธิ์ต่อวัน จำกัดจำนวนคนละ 2 สิทธิ์ตลอดรายการ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2564-31 สิงหาคม 2564 รวมจำนวนสยามกิฟต์การ์ดที่จัดเตรียมไว้ 4,500 สิทธิ์ตลอดรายการ ซึ่งหากคำนวณมูลค่าเมื่อลูกค้าที่มาจับจ่ายผ่านโครงการ “ยิ่งช้อปยิ่งได้” ที่วันสยาม จากปกติจะได้รับคูปองอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-voucher คืนเงินสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐประกาศแล้ว ยังสามารถรับสยามกิฟต์การ์ดเพิ่มเมื่อมาใช้จ่ายผ่านโครงการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการในศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม และไอคอนสยาม โดยจะได้รับสยามกิฟต์การ์ดเพิ่มอีกมูลค่าสูงสุด 1,000 บาทต่อคน รวมสามารถเพิ่มมูลค่าการจับจ่ายได้รวมสูงสุด 8,000 บาทต่อคน

แคมเปญ “OneSiam ยิ่งใช้ยิ่งได้” และ “ไอคอนสยาม ยิ่งใช้ยิ่งได้” ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนมาตรการ “ยิ่งช้อปยิ่งได้” ของภาครัฐในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งแคมเปญเพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย สร้างการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ได้ประกาศโครงการ “สยามรวมใจ ไทยช่วยไทย” โดยร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน สร้างสรรค์กิจกรรมแบ่งเป็น ไทยช่วยไทย, ไทย SAFE ไทย, และ ไทยช้อปไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง


*** แม็คโคร หนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ

ทางด้าน บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ก็ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ “โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้” เปิดรับการใช้จ่ายเพื่อชำระสินค้าแก่ผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิโครงการตั้งแต่กรกฎาคม-ธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voucher) สูงสุด 7,000 บาท โดยแม็คโครทุกสาขาจะติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สำหรับอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สิทธิ

ทั้งนี้ แม็คโครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการภายใต้เงื่อนไขการเป็นร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ของกระทรวงการคลัง โดยแม็คโครมีสมาชิกมากกว่า 3.3 ล้านราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย โชวห่วย ร้านอาหาร ซึ่งการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกการจับจ่ายสินค้าจำเป็นอย่างคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภคในช่วงที่ทุกคนต้องเผชิญกับความยากลำบากเช่นนี้ด้วย

สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21-28 มิถุนายน จำนวน 4 ล้านสิทธิ สามารถใช้จ่ายชำระสินค้าและบริการผ่าน G-Wallet ซึ่งการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2564 จะนำมาคิดคำนวน E-Voucher โดยยอดคืน E-Voucher จะคืนให้ผู้ใช้สิทธิจำนวน 3 รอบ ในทุกวันที่ 7 (7 สิงหาคม, 7 กันยายน และ 7 ตุลาคม) ซึ่ง E-Voucher สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (ไม่สามารถกดเป็นเงินสด หรือโอนเงินออกได้ จะต้องนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าในโครงการเท่านั้น)


*** “ซีพีออลล์” ผนึกร้านในเครืออัดแคมเปญ

ซีพี ออลล์ ร่วมผนึกกำลังกับธุรกิจในกลุ่ม ประกอบด้วย ร้านกาแฟออลล์ คาเฟ่ ร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู ร้านกาแฟคัดสรร ร้านยาเพื่อชุมชนเอ็กซ์ต้า พลัส เข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้" ของรัฐบาล นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ไอที พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง

ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการบริโภคและเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 โดยในครั้งนี้บริษัทได้นำสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นมาจัดโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้าได้เลือกจับจ่ายใช้สอย พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50%

ธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มซีพี ออลล์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ประกอบด้วย ร้านกาแฟออลล์ คาเฟ่ (ในร้านเซเว่น) จำนวนกว่า 8,000 สาขา ร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู (Bellinee’s Bake & Brew) จำนวนกว่า 60 สาขา ร้านกาแฟคัดสรร (ในร้านเซเว่นฯ) จำนวนกว่า 3,000 สาขา และร้านยาเอ็กซ์ต้า พลัส จำนวนกว่า 300 สาขา

สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”


*** “ท็อปส์-แฟมิลี่มาร์ท-มัทสึโมโตะ คิโยชิ” ร่วมขบวน

บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เกต เข้าร่วมสนับสนุนมาตรการเยียวยาโควิด-19 จากภาครัฐเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง ส่งร้านค้าในเครือ ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ แฟมิลี่มาร์ท และมัทสึโมโตะ คิโยชิ กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” เชิญชวนคนไทยใช้จ่ายค่าสินค้าผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2564 ชอปมากคุ้มมาก รับ E-Voucher รวมสูงสุด 7,000 บาท ตลอดโครงการ

นอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่าการจับจ่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ให้แก่ลูกค้าเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยการจัดลดราคาสินค้า พร้อมโปรโมชันพิเศษมากมาย ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และแฟมิลี่มาร์ท ได้เปิดรับการใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าแก่ผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิในโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ซึ่งจะเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voucher) สูงสุด 7,000 บาท โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ เดลี่, เฮลธิฟูล, ลุคส์, มัทสึโมโตะ คิโยชิ ทุกสาขา และแฟมิลี่มาร์ทสาขาที่ร่วมโครงการ โดยจะติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้สิทธิ




*** “บิ๊กซี”

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้" ของรัฐบาล เปิดรับการใช้จ่ายเพื่อชำระสินค้าแก่ผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 64 นี้ เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อภายในประเทศ สู้ภัยโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voucher) สูงสุด 7,000 บาท โดยบิ๊กซีได้จัดเตรียมโปรโมชันสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นราคาพิเศษกว่า 2,000 รายการ พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50%

พิเศษเฉพาะสมาชิกบิ๊กการ์ดบิ๊กซี เพิ่มให้อีกสูงสุด 3,000 บาท เมื่อสะสมยอดซื้อผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ครบทุก 5,000 บาท รับคูปองส่วนลดมูลค่า 250 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป (จำกัดยอดสะสมสูงสุด 5,000บาทต่อวัน และได้สูงสุดถึง 12 สิทธิ์/หมายเลขสมาชิกบิ๊กการ์ด/ระยะเวลาโปรโมชัน) ที่บิ๊กซี มินิบิ๊กซี และร้านยาเพรียวทุกสาขาทั่วประเทศ (คูปองนี้ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าในพื้นที่ขายของ Big pack สินค้ากลุ่มยา เวชภัณฑ์ และสินค้าที่ขึ้นทะเบียนเป็นยา บุหรี่ สุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลังแบบแพก และสินค้ายกเว้นอื่นๆ หลังหัก คูปอง และส่วนลดต่างๆ แล้ว)

สำหรับคูปองส่วนลดมูลค่ารวมสูงสุด 3,000 บาท ระยะเวลาสะสมยอดซื้อครบทุก 5,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 64 (ระยะเวลาโปรโมชัน 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 64) (ยอดสะสมดังกล่าวยกเว้นสินค้าในพื้นที่ขาย Big pack และสินค้ายกเว้นอื่นๆ หลังหักคูปอง และส่วนลดต่างๆ แล้ว) และระยะเวลาใช้คูปอง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 64 (ระยะเวลาโปรโมชัน 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 64) โดยจำกัด 12 สิทธิ/หมายเลขสมาชิกบิ๊กการ์ด/ระยะเวลาโปรโมชัน และจำกัดการใช้สิทธิได้ 1 สิทธิ/หมายเลขสมาชิกบิ๊กการ์ด/ท่าน/วัน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสด หรือโอนเงินออกได้ จะต้องนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าในโครงการเท่านั้น)