การตลาด - เปิดกลยุทธ์โตของ LINE ที่ขยายธุรกิจในไทยมาได้ครบรอบ 10 ปี สู่เส้นทาง การเป็นแพลตฟอร์มแถวหน้าที่ตอบโจทย์คนไทยยุคดิจิทัล ที่ผูกติดชีวิตดิจิทัลคนไทยได้ ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน สยายปีกเป็นแพลตฟอร์ม Chat Commerce เพื่อธุรกิจเติบโตเต็มกำลัง ผลักดันศักยภาพแบรนด์และผู้ประกอบการไทยทุกระดับด้วยพลังของ LINE ECOSYSTEM ยกระดับไลฟ์สไตล์ ขับเคลื่อนธุรกิจ บนเส้นทาง Digital Transformation
ในธุรกิจค้าปลีก ไม่มีใครไม่รู้จัก เซเว่นอีเลฟเว่น
เช่นเดียวกันกับ ในโลกโซเชียล ก็ย่อมไม่มีใครไม่รู้จัก ไลน์ (LINE)
เพราะทั้งสองอย่างนี้ เรียกได้ว่าเข้ามาผูกติดกับชีวิตคนไทยตั้ืงแต่ ตื่นนอนจนถึงก่อนเข้านอน ก็ไม่ผิด
โดยเฉพาะ ไลน์ ที่เป็นมากกว่าแค่เครื่องมือการสื่อสารไปแล้ว
ปฎิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้บทบาทหน้าที่ของ Line ไม่ได้เป็นเพียงแค่ แอปพลิเคชั่น แชต (Application Chat ) ที่เอาไว้ใช้ในการรับส่งข้อความคุยกันธรรมดาเหมือนในอดีตอีกแล้ว ที่ทักมาคุยกันส่วนตัวหรือคุยเป็นกลุุ่ม ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีที่เราคุ้นกันจนชิน แต่ทุกวนี้ไลน์กลับกลายเป็นอีกเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ที่ทรงประสิทธิภาพ เพราะว่า ไลน์มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายและเอื้ออำนวยต่อการสร้างธุรกิจได้ดี
“ตลอดการเดินทาง 10 ปี ของ LINE เราได้เติบโตอย่างรวดเร็วจากแอปพลิเคชันสื่อสารสู่การเป็นแพลตฟอรมที่สามารถยกระดับชีวิตคนไทย ในยุคดิจิทัลด้วยฟีเจอร์และบริการต่างๆ บนแอปฯ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแชท - ประชุมงาน - ช้อปปิ้ง - สั่งอาหาร - จ่ายเงิน - ดูซีรีส์ – อ่านข่าว ฯลฯ” เป็นคำกล่าวของ ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย ที่ทำให้มองเห็นภาพของไลน์ในปัจจุบันได้อย่างดี
ทุกวันนี้ LINE จึงก้าวเข้าไปอยู่ในส่วนหนึ่งชีวิตของผู้ใช้ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการใช้บริการของแพลตฟอร์มเรา มากไปกว่านั้น เรายังเป็นแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจ ที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ องค์กรและผู้ประกอบการไทยทุกระดับบนเส้นทางดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น( Digital Transformation ) สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ธุรกิจ เรารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในทุกวันนี้ โดยเบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้น มาจากความตั้งใจของ LINE ที่พัฒนาบริการทุกอย่างมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด รวมถึงการสนับสนุนและความไว้วางใจของทุกคนที่มีให้กับเรา
จากข้อมูลเมื่อปี2563 ระบุว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญและใหญ่เป็๋นอันดับที่2 รองจากญี่ปุ่น ของ LINE เลยทีเดียว ด้วยยอดผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่า 45 ล้านบัญชี จากจำนวนผู้ใช้มือถือของคนไทยมากกว่า 69 ล้านคน และไลน์ยังเป็นแอปที่คนไทยใช้เวลาอยู่ด้วยมากทีสุดเฉลี่ยถึง 63 นาทีต่อวัน
ความสำเร็จและการเติบโตดังกล่าวยังเป็นสิ่งตอกย้ำประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Humanization & Localization ที่ LINE ใช้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อครองใจผู้ใช้ในเมืองไทยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการพัฒนาฟีเจอร์ และบริการรวมถึงการทำการตลาดที่ตอบโจทย์คนไทย
ดังเช่น การพัฒนา LINE MAN ที่มาปฏิวัติไลฟ์สไตล์การกินของคนไทยที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดแอปพลิเคชั่นฟู้ดดีลิเวอรี่ได้เป็นอย่างดี จนเติบโตและควบรวมธุรกิจกับ Wongnai จนเกิดแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งเป็น LINEMAN WONGNAI , การพัฒนา MyShop โซลูชันส์ที่มาเสริมแกร่ง Chat Commerce ให้ LINE Official Account รองรับการเปิดร้านค้าออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ได้ร่วมมือกับภาครัฐพัฒนา LINE Official Account เพื่อตอบโจทย์บริการที่หลากหลายเพื่อประชาชน
จากข้อมูลของLINEMAN WONGNAI ระบุว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai ได้เดินทางส่งอาหารให้คนไทยรวมกันกว่า 158 ล้านกิโลเมตร หรือมีความยาวเท่ากับการเดินทางจากจุดใต้สุดเมืองไทยคือเบตงไปถึงจุดเหนือสุดของประเทศไทยคือแม่สาย เกิน 7 หมื่นรอบด้วยกัน
ในขณะที่ LINE Today ก็มีสถิติที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งพบว่าคนไทยอ่านหน้ั้งสือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แทนหนังสือจริง โดยมียอดวิวบน LINE TODAY รวมทั้งปีเท่ากับคนไทยอ่านหนังสือ เฉลี่ยคนละเกือบ 15 เล่มต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี2562ถึงเกือบ 2 เท่า ( คำนวณจากหนังสือกระดาษ A4 จำนวน 200 หน้า ขนาดตัวอักษร 14)
ข้อมูลของไลน์ระบุไว้เมื่อปีที่แล้วว่า ในหนึ่งครั้งที่ผู้ใช้งานเข้าใช้งาน Line Today (session) จะใช้เวลาประมาณ 5.13 นาที เทียบกับเวลาที่ผู้ใช้งานเข้า online publiser อื่นต่อครั้งประมาณ 2.30 นาที
ในส่วนคอนเทนต์ยอดนิยมของไทย คงหนีไม่พ้นเรื่องเสี่ยงดวง โดยคอนเทนต์เกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังคงครองแชมป์คอนเทนต์ฮิตแห่งปี ไม่ว่าจะเป็นยอดการชม LIVE ในทุกวันลอตเตอรี่ออกที่สูงแตะเกิน 3 ล้านวิวในทุกครั้ง และยอดการอ่านคอนเทนต์เกี่ยวกับผลสลากกินแบ่งฯ บน LINE TODAY ก็มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 50% ในช่วงวันลอตเตอรี่ออก
ขณะที่ไลน์ทีวี LINE TV คนไทยจะใช้งานประมาณ 2 ชั่วโมง 16 นาทีต่อวัน ซึ่งจะมากกว่าใช้เวลากับ platform online TV อื่นประมาณ 1 ชั่วโมง 17 นาที
ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่ในแง่ของการเข้าสู่ธุรกิจการค้าไลน์ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
เพราะตลอดทศวรรษที่ผ่านมา LINE ได้สร้างความเป็นไปได้ในแง่ของการปลดล็อกข้อจำกัดทางอาชีพให้สามารถมีอาชีพใหม่ๆ ประกอบธุรกิจได้บนแพลตฟอร์มของ LINE อย่างไร้พรมแดนสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้ง Social Seller ขายของออนไลน์, แอดมินบริหารจัดการหน้าร้านออนไลน์, LINE STICKERS CREATOR ที่เปิดโอกาสสร้างรายได้ ผ่านการออกแบบ LINE STICKERS โดยปัจจุบันมีมากกว่า 700,000 คน มีสติกเกอร์วางจำหน่ายทั้งหมดรวมแล้วกว่า 3.6 ล้านชุด รวมถึงการขับเคลื่อนสร้างคนพันธุ์เทคฯ หน้าใหม่ของเมืองไทยผ่านกิจกรรม Developer ที่จัดอย่างต่อเนื่อง ทั้ง LINE Developer Conference และ LINE HACK ฯลฯ
LINE พร้อมที่จะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพ “โครงสร้างพื้นฐาน” อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้สามารถยกระดับชีวิตผู้ใช้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม โซลูชันส์ และเครื่องมือทรงประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนผู้ใช้สามารถสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ควบคู่กับประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์ม LINE ที่สมบูรณ์
ด้วยแนวทางการพัฒนาฟีเจอร์และบริการต่างๆในแนวดิ่งพร้อมเสริมแกร่ง 3 แกนธุรกิจหลัก ได้แก่
1. OMO (Online Merges Offline) – สร้างความแข็งแกร่งให้กับประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ทั่วประเทศ เชื่อมต่อโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียว
2. Fintech - ยกระดับ Financial Experience ของผู้ใช้งาน LINE อย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ให้สามารถ “แชท - โอน - ยืม - จ่าย” ได้บนแอป LINE จบครบในที่เดียว โดยไม่ต้องออกข้ามไปแอปพลิเคชันอื่น
3. e-Commerce - มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Social commerce ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่างด้วย Chat Commerce ช่วยให้ร้านค้าดำเนินธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อด้วยอีโคซิสเต็มของ LINE ที่แข็งแกร่ง
“แม้องค์กรจะเติบโตมากขึ้นไปตามกาลเวลา LINE เองก็จะยังคงไว้ซึ่งการเป็น Tech Company with Startup Mindset แนวคิดที่ยังทำพวกเราชาว LINE ยังคงสนุกสนาน ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ไม่กลัวที่จะผิดพลาดล้มเหลว แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งต่างเป็นดีเอ็นเอของเราให้สามารถพัฒนาบริการและฟีเจอร์ต่างๆบนอีโคซิสเต็ม LINE เพื่อยกระดับชีวิตของผู้ใช้ในทุกมิติอยู่เสมอ ” ดร.พิเชษฐ กล่าว
สำหรับส่วนหนึ่งของการเติบโต LINE ที่น่าสนใจ เช่น
• การใช้งานฟังก์ชันการสื่อสารต่างๆของ LINE เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลา ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่าง LINE Group Audio Call ที่มีการใช้งานเพิ่มสูงกว่า 72% LINE Group VDO Call เพิ่มขึ้น 162 % เช่นเดียวกันกับ LINE Meeting ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2563 ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 371%
• LINE Official Account มีผู้ใช้บัญชีทางการเพิ่มขึ้นถึง 25% เป็น 4 ล้านบัญชี (เปรียบเทียบ ไตรมาสที่ 3 2562 และ ไตรมาสที่ 3 2563)
• ช่วงปีที่ผ่านมา มีการเชื่อมต่อใช้ เครื่องมือ MyShop โซลูชันส์ที่ช่วยบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 257% ขณะที่การจับจ่ายออนไลน์บน LINE SHOPPING คึกคัก สร้างยอดขาย (GMV) โตกว่า 200% ทั้งสินค้าจิปาถะไปจนถึงแฟชั่นและแก็ดเจ็ต ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ช่วงโควิด -19 ของ LINE ได้เป็นอย่างดี