กันกุล เอ็นจิเนียริ่งตั้งเป้ารายได้ปีนี้กว่า 9พันล้านบาท และปี65 ขยับเพิ่มเป็น1หมื่นล้านบาทหลังรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงปีละ1.5-2พันล้านบาท คาดปิดดีลM&Aโรงไฟฟ้าพลังลมและโซลาร์ในเวียดนามและไทยได้ในปีนี้
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่าในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้กว่า 9,000 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีรายได้ 8,996 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามาเพิ่มจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD)แล้ว 640 เมกะวัตต์ โดยบริษัทวางเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2566
โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย1,000เมกะวัตต์ มาจากโครงการติดตั้งโซลาร์รูปท็อป 150 เมกะวัตต์ และการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม โรงไฟฟ้าพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศอีกประมาณ 200 เมกะวัตต์ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาเพื่อซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าพลังลมและโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม รวมถึงซื้อกิจการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทย คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้ ขณะเดียวกันได้ยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง จำนวน 2-3 โครงการ เป็นโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ มีกำลังการผลิต 3-5 เมกะวัตต์/โรง
สำหรับผลประกอบการของบริษัทปี2564 ยังได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) ราว 5,800 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ รวมถึงรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง อย่างไรก็ตามสำหรับงาน EPC บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานอีกมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท คาดหวังชนะประมูลงานส่วนนี้อย่างน้อย 15% ส่งผลให้บริษัทจะมี Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 7,000-8,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ไปจนถึงปี 2566
จากการขยายธุรกิจต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2565 อยู่ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท โดยทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงปีละ 1.5-2 พันล้านบาทและจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2566 ส่งผลให้รายได้ปี 2566 แตะ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า คิดเป็นประมาณ 50% ,ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) สัดส่วน 30% และธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 20% ของรายได้รวมทั้งหมด และปี 2565 บริษัทจะมีสัดส่วนส่วนรายได้จากธุรกิจกัญชงเข้ามาเสริม โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ธุรกิจกัญชงและกัญชา อยู่ที่ 25% ภายในปี 2565-2566
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนสำหรับปี 2564-2566 รวมอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนสำหรับธุรกิจไฟฟ้า 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ให้ได้ตามเป้าหมาย ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินลงทุนในธุรกิจกัญชง 2 พันล้านบาท และธุรกิจ Built2Suit อีกประมาณ 3 พันล้านบาท