ผู้จัดการรายวัน 360 - เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ ร่วมกับโรงแรมชั้นนำในจังหวัดภูเก็ต เปิดตัวแคมเปญในยุโรป ตอบรับโมเดล Phuket Sandbox (ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์) เจาะกลุ่มนักเดินทางจากสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย พร้อมเปิดเกาะ 1 กรกฎาคมนี้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ด้านโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติให้กลับมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป หลังจากที่พนักงานในเครือเซ็นทารารับการฉีดวัคซีนครบถ้วน
ภายใต้ยุทธศาสตร์เพื่อเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการร่วมกันขับเคลื่อนของทุกภาคส่วนให้เปิดรับนักเดินทางจากทั่วโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวนั้น จะเริ่มต้นนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตเป็นอันดับแรก โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเกาะภูเก็ตได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป ทันทีที่ประชากรในภูเก็ตได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 70 เปอร์เซ็นขึ้นไป
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เผยว่า แผนเปิดเกาะภูเก็ตยังคงยืนยันในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยจะรับนักเดินทางจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และสามารถอยู่ในภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ตามโมเดล “Phuket Sandbox” ซึ่งทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ตกำลังร่วมมือกันเตรียมพร้อมที่จะเปิดเกาะให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฉีดวัคซีนในจังหวัดภูเก็ตที่กำลังเร่งให้ฉีดได้ถึง 70% ของจำนวนประชากร ก่อนเปิดเกาะอย่างปลอดภัย
“การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเราเหลือเวลาอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ก่อนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกจะมาถึงภูเก็ตหลังปิดประเทศมานานกว่า 15 เดือน ขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเตรียมความพร้อมกันอย่างมุ่งมั่น รวมถึงการเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน การฝึกอบรมพนักงานใหม่ และใช้แนวทางใหม่ของ SHA Plus เพื่อจัดการกับสุขภาพและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ” นายภูมิกิตติ์กล่าว
ด้าน เดวิด จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภูเก็ต และทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมแคมเปญที่เปิดใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่ยุโรป กล่าวว่า “การเปิดเกาะภูเก็ตอีกครั้งนับเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวการท่องเที่ยวของไทย โดยนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะกลับมาก่อนเป็นกลุ่มแรก ดังนั้น การตลาดและการประชาสัมพันธ์จึงมีความสำคัญมากต่อธุรกิจบริการและท่องเที่ยวในภูเก็ตตอนนี้ สิ่งที่จะเป็นกุญแจสำคัญคือการนำเสนอสิ่งที่ต่างไปจากเดิม โรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ จำเป็นต้องสร้างเรื่องเล่าเรื่องใหม่โดยอิงจากธรรมชาติ วัฒนธรรม และจุดหมายปลายทาง ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักเดินทาง”
ทั้งนี้ บิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโรงแรมและรีสอร์ตระดับประเทศ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดนักท่องเที่ยวของภูเก็ตเปิดเกาะครั้งแรกหลังโควิดว่า “ยุโรปเป็นตลาดใหญ่ มีดีมานด์ที่แข็งแกร่งใน Q3 และ Q4 ของภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จากผลการสำรวจคาดว่ากลุ่มแรกที่จะกลับมาคือมาจากตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางแบบระยะยาวแบบดั้งเดิม (traditional long-haul European) ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และสแกนดิเนเวีย มีสัดส่วนระหว่าง 35-40% ของนักเดินทางมาจากจุดหมายปลายทางที่มีอากาศหนาวเย็นในยุโรปเหนือตะวันออกและตะวันตก นับเป็นพื้นฐานที่ดีในการเริ่มการฟื้นตัวการท่องเที่ยวไทย
นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะยังคงยึดมั่นกับโครงการ Phuket Tourism Sandbox ซึ่งมีกำหนดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต แบบไม่มีการกักตัวในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จากความพยายามในการเร่งกระจายวัคซีนของภูเก็ต ทำให้เชื่อได้ว่าโครงการนี้จะยังสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้ โดยความสำเร็จของโครงการนำร่องนี้จะถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการเปิดประเทศอีกครั้ง”
โดยก่อนที่เราจะทำการเปิดประเทศแบบไม่มีการกักตัวในทุกพื้นที่ รัฐบาลควรดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อเจรจาทำข้อตกลงทวิภาคีกับประเทศต่างๆ เพื่ออนุญาตให้ประชาชนของทั้งสองประเทศที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว สามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกักตัว อย่างเช่นที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ทำร่วมกัน ความสำเร็จของข้อตกลงในรูปแบบนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ประเทศก่อนที่จะมีการเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบในอนาคต
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า โดยแผนการเร่งฉีดวัคซีนให้พนักงานนั้นถือเป็นความมุ่งมั่นของเซ็นทาราที่ตั้งใจดูแลสวัสดิภาพพนักงานอย่างสุดความสามารถ ให้ตรงกับความเชื่อที่ว่า หากดูแลพนักงานได้อย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นคนในครอบครัวแล้ว พนักงานก็จะส่งต่อความห่วงใยและสามารถมอบการบริการอันแสนอบอุ่นให้แก่ลูกค้าได้ต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ทางบริษัทยังได้ดำเนินการทำประกันโควิดให้พนักงานประจำทุกคนอีกด้วยเช่นกัน
“เพราะความปลอดภัยของพนักงานและแขกผู้เข้าพักของเราถือเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ การที่เราเร่งจัดการให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดภูเก็ตได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน รวมไปถึงความเข้มงวดในการนำเอามาตรการด้านความสะอาดและสุขอนามัย อย่างโปรแกรมเซ็นทารา คอมพลีต แคร์ ไปใช้กับทุกๆ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือนั้น ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรามีความพร้อมเต็มศักยภาพที่จะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตแล้ว”
มาตรฐานด้านการความสะอาดและความปลอดภัยภายใต้โปรแกรม เซ็นทารา คอมพลีต แคร์ รวมไปถึงการตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคนทุกวันก่อนเข้าพื้นที่ การรักษาระยะห่าง การเพิ่มมาตรการด้านสาธารณสุข รวมทั้งการเคร่งครัดให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์ขณะให้บริการลูกค้าตลอดเวลา
เนื่องจากเครือเซ็นทารานั้นมีโรงแรมและรีสอร์ตหลายแห่งตั้งอยู่ภายในจังหวัดภูเก็ต จึงสามารถตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีโปรโมชันหลากหลายที่เหมาะทั้งสำหรับทริปพักผ่อนสั้นๆ หรือการท่องเที่ยวพำนักในระยะยาว และยังมีประเภทที่พักให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักประเภทพูลวิลลา ติดริมทะเล หรือห้องพักขนาดใหญ่ที่มาพร้อมสวนน้ำสำหรับวันหยุดพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว