“ศักดิ์สยาม” คาด ก.ค.กฎกระทรวงเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปฯ บังคับใช้ เร่ง ขบ.ออกระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้ง คนขับ ตัวรถ ค่าโดยสาร และผู้ให้บริการแอปฯ ช่วยรัฐเก็บภาษีมีรายได้เข้าประเทศ พร้อมเลิก TAXI OK ลดภาระแท็กซี่และให้หารายได้จากโฆษณาได้อีกทาง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อเร่งรัดดำเนินการรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านแอปพลิเคชัน ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 พ.ค. มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ... แล้ว ขั้นตอนจากนี้จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างฯ เพื่อประกาศใช้ ซึ่งทางเลขาฯ กฤษฎีการะบุว่าจะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคมวันที่ 1 มิ.ย.นี้เพื่อสรุปความถูกต้องครบถ้วนของข้อความในร่างกฎกระทรวง จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังเลขาฯ ครม.เพื่อให้ รมว.คมนาคมลงนาม
ซึ่งคาดว่าภายในต้น ก.ค.นี้จะประกาศร่างกฎกระทรวงในราชกิจจานุเบกษาได้
ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งดำเนินการออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมทันทีภายหลังกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ค. 2564 นี้ เช่น การกำหนดอัตราค่าโดยสาร, หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองระบบอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องหมายสำหรับรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, หลักเกณฑ์และวิธีการวัดกำลังของเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า, เงื่อนไขและขั้นตอนในการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างทางเลือกดังกล่าว เพื่อให้ผู้ที่มีความประสงคประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างทางเลือกไปสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ ขบ.รับรอง ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ใช้ในการให้บริการ นำหลักฐานต่างๆ พร้อมรถยนต์ส่วนบุคคลมาเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง ก่อนออกให้บริการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต้องมายื่นขอรับรอง และเมื่อได้รับการรับรองแล้วจึงจะสามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะขับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้ โดยเงื่อนไขของผู้ให้บริการแอปฯ ต้องเป็นนิติบุคคล ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นเป็นจำนวนที่เพียงพอน่าเชื่อถือ และไม่สูงเกินไปจนกีดกันหรือให้เฉพาะรายใหญ่ อีกทั้งกำหนดให้มีสถานที่ประกอบการในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้รายได้ทั้งหมดอยู่ในประเทศไทย สามารถจัดเก็บภาษีนำรายได้เข้ารัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศได้ จากที่ผ่านมามีการประกอบธุรกิจแบบนี้ในประเทศไทยแต่ไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้รัฐไม่สามารถเข้าไปกำกับดูแลได้เต็มที่และเก็บภาษีไม่ได้เพราะรายได้ออกไปยังบริษัทที่จดทะเบียนต่างประเทศ
“ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่นั้นสามารถลงทะเบียนเข้ากับผู้ให้บริการแอปฯ ที่ ขบ.อนุญาตได้ ซึ่งแท็กซี่มีความพร้อมทั้งตัวรถและตัวผู้ขับแท็กซี่เองที่มีใบขับขี่สาธารณะ ซึ่งการเรียกรถผ่านแอปฯ จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดค่าเชื้อเพลิง จากเดิมที่แท็กซี่ต้องวิ่งรถเปล่าเพื่อหาผู้โดยสาร เพราะสามารถนัดหมายจองกันผ่านแอปฯ ได้ โดยคำนึงถึงหัวใจบริการรถรับจ้างสาธารณะ สะดวก สะอาด ปลอดภัย รวดเร็ว ราคาที่เป็นธรรม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ส่วนผู้ให้บริการแอปฯ จะมีการคิดค่าธรรมเนียมตามมาตรฐานสากล”
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ขับรถแท็กซี่ ปัจจุบัน ขบ.พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเป็นทางเลือกให้รถแท็กซี่ใช้แทน GPS ระบบ TAXI OK ที่แท็กซี่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน 200-300 บาท โดยจะเสร็จในเดือน มิ.ย. 2564 รวมถึงอนุญาตให้แท็กซี่สามารถหารายได้จากการใช้พื้นที่ของรถสำหรับโฆษณาสินค้าได้อีกด้วย