ตกเป็นข่าวพาดหัวใหญ่เมื่อคณะรัฐมนตรี มีมติให้เลื่อนการใช้บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ไปอีก 1 ปี
ดังนั้นสำหรับคุณที่อยู่ในภาคธุรกิจที่มีหน้าร้านในรูปแบบเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ก็มั่นใจได้เลยว่าคุณมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ในช่วงสถานการณ์โควิด ก่อนกฎหมายบังคับใช้ในเดือน มิถุนายน ปี พ.ศ. 2565 ปีหน้า
เพราะคุณทราบดีว่ายิ่งโลกแห่งอินเทอร์เน็ตหมุนไวเท่าใด กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ก็ต้องปรับให้ทัน และจะดีกว่าไหมหากทุกแผนการตลาด และโฆษณาของคุณยืนอยู่บนมาตรฐานของการใส่ใจลูกค้าในมิติด้านอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า การปฎิบัติที่เป็นไปตามมาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมาย การจัดการความยินยอม สิทธิของลูกค้าในความเป็นเจ้าของข้อมูล และคัดสรรเฉพาะโปรโมชันที่เขาอยากได้ ในเวลาที่ต้องการ ตามหลักของการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing)
PDPA ให้ความมั่นใจว่าภาคธุรกิจพร้อมคุ้มครองผู้บริโภค
กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลในยุโรป (GDPR) ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2561 ปัจจุบันมีกว่า 128 ประเทศที่มีกฎหมายลักษณะนี้บังคับใช้ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่จะมีผลบังคับใช้กลางปีหน้า และภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อม“แสดงออกถึงเจตจำนงค์ และการปฎิบัติ”ต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคผ่านกฎหมายที่ชื่อว่า กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA- Personal Data Protection Act)
หากจะให้อธิบายบทสรุปของกฎหมายนี้แบบเข้าใจได้โดยง่ายก็คือ ลูกค้าสามารถรับรู้ และเลือกได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ตนอนุญาต ให้ความยินยอม หรือไม่ยินยอม ให้ภาคธุกิจเก็บไว้ ขณะเข้าไปทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงสิทธิในการที่ลูกค้าสามารถเรียกข้อมูลส่วนบุคคลกลับมาตรวจสอบ และการยกเลิกสิทธิ์
ซึ่งกฎหมาย PDPA ก็ออกมาเพื่อบังคับให้ภาคธุรกิจจะต้องมีองค์ความรู้ ความเข้าใจ ในการการกำกับดูแล ปกป้อง รักษา คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เข้ามาใช้งานในระบบของตนอย่างถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
PDPA ให้สิทธิกับลูกค้าในการจัดการข้อมูลของตัวเอง
ตามที่ท่านเข้าใจดีอยู่แล้วว่า ต้นทุนของการเข้าถึงลูกค้าประจำย่อมต่ำกว่าการเข้าหาลูกค้าใหม่ ดังนั้นการใช้ฐานข้อมูลของการทำธุรกรรมของลูกค้าเดิม เพื่อเป็นจุดตั้งต้นของการเสนอบริการที่ “ลูกค้าเดิมน่าจะชอบ” จึงถือเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ภาคธุรกิจมักจะกระทำต่อลูกค้าผู้เป็นสมาชิก
แต่หาก “โปรโมชัน” ที่ภาคธุรกิจเสนอไม่ถูกใจลูกค้าเก่า และเขาไม่ต้องการรับทราบเกี่ยวกับโปรโมชันใดๆ อีก จึงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะ “ลบ หรือ ทำลาย” ข้อมูลการทำธุรกรรมใดๆ ของลูกค้าท่านนั้นออกจากระบบตามที่ลูกค้าร้องขอ
ซึ่งจุดนี้เองกฎหมาย PDPA นี้แหละ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า องค์กรของตนเคารพและปกป้องสิทธิในการเข้าถึง และเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าได้จริงๆ มีเครื่องมือ หรือระบบที่เหมาะสมในการดูแล
PDPA เริ่มต้นคุ้มครอง เพียงแค่เริ่มต้น ติดตั้งระบบจัดการ "คุ๊กกี้ป๊อบอัพ"
ถึงตอนนี้หากกล่าวให้เป็นรูปธรรมว่ากฎหมาย PDPA มันจะออกมาหน้าตายังไง ที่จะทำให้ลูกค้ารับรู้ได้ว่าองค์กรของคุณได้ตระหนักถึงการปกป้องสิทธิของพวกเขาอย่างแท้จริง?
ปราการด่านแรกที่ลูกค้าจะรับทราบได้ก็คือ การติดตั้ง “ระบบจัดการคุกกี้ป๊อปอัพ” เข้าไปในเว็บไซต์ทางการ หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ที่สร้างสรรค์โดยองค์กรของคุณ ซึ่งเพียงแค่การคัดลอกรหัสโค้ดไม่กี่บรรทัด และนำไปแปะที่เว็บ-แอปฯขององค์กรคุณ ก็เสมือนเป็นการบอกกับลูกค้าได้ว่าภาคธุรกิจของคุณพร้อม หรือมีเจตจำนงค์ที่จะปกป้องสิทธิของผู้บริโภคแล้ว ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น วิธีการแบบ Explicit Consent กล่าวคือระบบคุกกี้ จะบันทึกข้อมูลต่อเมื่อลูกค้า กดยอมรับ หรือให้ความยินยอม เท่านั้น
เริ่มต้นพาองค์กรคุณปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ได้ฟรีกับ beCookies.Tech
หากคุณไม่ได้อยู่แผนกไอที ก็สามารถเริ่มต้นที่จะนำพาให้ธุรกิจออนไลน์ขององค์กรคุณปรับตัวเข้ากับกฎหมาย PDPA ได้อย่างง่าย ด้วยการใช้บริการของ beCookies (https://becookies.tech) ที่เพียง 3 ขั้นตอน ไม่เกิน 3 นาที คุณก็สามารถรับโค้ด JavaScript เพื่อไปติดตั้งบนเว็บ-แอปขององค์กร ที่ผ่านการออกแบบตามมาตรฐานของพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ครอบคลุมทั้งประเทศไทย และ GDPR อีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
เกี่ยวกับ beCoookies.tech
beCookies.tech เป็นผลงานที่ผสานความเชี่ยวชาญจากทีมที่ปรึกษาหลากแขนงของไทย อาทิเช่น ที่ปรึกษาด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้านกฎหมายคอมพิวเตอร์ ด้านความปลอดภัย และผู้พัฒนาระบบเว็บไซต์-แอปฯ ระดับประเทศ(เช่น ระบบ e-TAX Invoice ให้สรรพากร/ETDA, ระบบลงทะเบียนและคัดเลือก TCAS ที่รองรับคนใช้จำนวนมากและระบบไม่ล่ม)
เพื่อสร้างสรรค์เป็นแพลตฟอร์มระดับประเทศ สำหรับการเป็นเครื่องมือและตัวช่วย ให้กับองค์กรทุกระดับสามารถปรับตัวให้สอดรับกับพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ (PDPA) ผ่านหลากบริการ ไม่ว่าจะเป็น beCookies Consent Management, beConsent Management ระบบการจัดการให้ความยินยอม Data Subject Right การให้สิทธิของเจ้าของข้อมูล การจัดทำทะเบียนรายการข้อมูส่วนบุคคล การบันทึกกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
beCoookies.Tech ถูกพัฒนาโดยบริษัทผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับการใช้งานระดับองค์ (Enterprise Digital Solution) และติดตั้งใช้ที่ กรุงไทยพานิชประกันภัย กรมทรัพย์สินทางปัญญา หน่วยงานราชการ บริษัทหลายแห่ง และเร็วๆนี้ในธนาคารไทยแห่งหนึ่ง
และเพื่อสนับสนุนทุกองค์กรของไทยให้เตรียมความพร้อมกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ (PDPA) ทาง BeCoookies.Techจึงเปิดให้ใช้บริการส่วน beCookies ฟรีจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 (ไม่เกินจำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์ที่กำหนดไว้ ต่อเดือน) คลิกที่นี่
