เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การท่าเรือแห่ง-ประเทศไทย (กทท.) เตรียมลดค่าธรรมเนียมแก่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าปูนซิเมนต์เทาถุงรายหลักของไทยผ่านท่าเรือระนอง (ทรน.) เพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดค่าใช้จ่ายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการตลาด และสร้างรายได้เพิ่มให้กับ ทรน. อีกทางหนึ่ง โดยสนับสนุน การขยายกลุ่มเป้าหมายสินค้าใหม่ ส่งเสริมการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่าง ทรน. กับท่าเรือในกลุ่มประเทศ BIMSTEC ได้แก่ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย ไทย เมียนมา เนปาล และภูฏาน รวมทั้งเป็นการลดต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งในภาคใต้ และส่งเสริมให้ ทรน. เป็นประตูการค้าฝั่งตะวันตก (Western Gateway) ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (SEC)
เนื่องจาก ทรน. เป็นท่าเรือที่มีศักยภาพด้านการขนถ่ายสินค้าข้างลำลงเรือโดยตรง จึงได้เชิญชวน บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมนเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้ขนส่งปูนซิเมนต์ถุงส่งออกรายหลักไปยังเมียนมา ร่วมพัฒนาระบบ New Normal Logistics ในรูปแบบ Model Lighter ซึ่งสามารถขนส่งสินค้าได้รอบละ 5,000 - 6,000 ตันต่อเที่ยว เมื่อเทียบกับทางถนนโดยปรับเปลี่ยนโหมดการขนส่งจากโรงงานอำเภอทุ่งสง (รถบรรทุก) ไปยังท่าเรือในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยเรือลำเลียง (Lighter) มายัง ทรน. เพื่อไปยังเมียนมา ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
อนึ่ง คณะกรรมการฝ่ายบริหาร กทท. ได้เห็นชอบให้ส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียม ทรน. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการขนถ่ายปูนซิเมนต์ผ่าน ทรน. ของบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมนเนจเมนท์ จำกัด ในอัตราที่เหมาะสมเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 โดยให้ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าธรรมเนียมจากเดิม 15 วัน เป็น 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับใบแจ้งหนี้ และมอบหมายให้สำนักงานท่าเรือภูมิภาค และฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด ดำเนินการหาแนวทางวางแผนธุรกิจร่วมกันในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) พันธมิตรระหว่างบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมนเนจเมนท์ จำกัด และ ทรน. ต่อไป