‘กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19’ สานต่อภารกิจของการอยู่เคียงข้างคนไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจรักษาได้ และสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้ทีมแพทย์และพยาบาลได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด เผย 1 ปีกว่าใช้งบไปแล้ว 270 ล้านบาท
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับกลุ่มมิตรผล จัดตั้งกองทุนมิตรผล-บ้านปู ‘รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19’ เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ด้วยการระดมทุนบริษัทละ 250 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 500 ล้านบาท โดยมีการใช้เงินกองทุนฯ เพื่อสนับสนุนให้ทีมแพทย์และพยาบาลสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันตัวที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด รวมทั้งส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ในการตรวจรักษาคนไข้ในช่วงเวลา 1 ปีกว่าแล้ว 270 ล้านบาท
ส่วนเงินกองทุนฯ อีก 230 ล้านบาทก็นำมาสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อใช้ในการตรวจและรักษาผู้ป่วยหนักซึ่งยังขาดแคลนอยู่ เช่น เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล เครื่องช่วยหายใจ ชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ โดยจะทำงานเชิงรุกเพื่อประเมินสถานการณ์ และประสานข้อมูลกับทั้งหน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานที่ต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นจากภัยวิกฤตโควิด-19 ได้
สิ่งที่น่ากังวลคือโควิดสายพันธุ์อินเดียที่มีการระบาดอย่างรวดเร็วในมาเลเซีย และอินเดีย จำเป็นต้องสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาแพร่ในไทย ดังนั้น หน่วยงานรัฐต้องเข้มงวดกวดขันการลักลอบเข้าประเทศตามเส้นทางธรรมชาติในภาคใต้ และภาคตะวันตก
ด้านนายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า วิธีการดำเนินงานของกองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ ตลอดช่วงวิกฤตที่ผ่านมา คือกระจายกำลังกันไปช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในวงที่กว้างขึ้นและไม่ซ้ำซ้อนกัน เราได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของภาครัฐ เช่น กรมการแพทย์, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลราชวิถี เป็นต้น ในการชี้เป้าว่าจุดไหนที่มีความสำคัญและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และแต่ละบริษัทจะใช้ทรัพยากรที่เรามี ตลอดจนเครือข่ายในต่างประเทศเข้ามาสนับสนุนความช่วยเหลือ เราได้สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญๆ เช่น เครื่อง CT Scan, ห้องตรวจเชื้อความดันลบ-บวก, เครื่องช่วยหายใจ, หน้ากาก N95, ชุด PPE, แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น แพทย์ พยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุข ทหาร ตำรวจ หน่วยงานราชการต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัดและท้องถิ่น รวมถึงชุมชนและเกษตรกรชาวไร่ที่เราดูแลอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 215 หน่วยงาน ครอบคลุม 35 จังหวัด