กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ผนึก 40 โรงงาน จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ลงนามบันทึกข้อตกลงเข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการลักลอบทิ้ง ผ่านหลักการ 3Rs และ KAIZEN ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัด/กำจัด เพิ่มมูลค่าของเสีย และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการค้า สอดคล้องหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2564 กรอ.โดยกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกากอุตสาหกรรมผ่านการใช้หลัก 3Rs และหลักการ KAIZEN (ไคเซน : คือการทำงานให้น้อยลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มุ่งเน้นลดขั้นตอนการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานให้สูงขึ้น) เข้ามาเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ของเสียเพิ่มเติม โดยได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ยืนยันเข้าร่วมโครงการฯ กับ กรอ.จำนวนทั้งสิ้น 40 โรงงาน พื้นที่เป้าหมาย 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าข่ายเป็นผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรม
“โรงงานที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการถ่ายทอดความรู้ คำแนะนำ และการประยุกต์ใช้หลักการ 3Rs และ KAIZEN ภายในโรงงาน ส่งเสริมให้โรงงานสามารถปฏิบัติได้จริงในการแก้ไขปรับปรุงการจัดการของเสียให้สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งนำไปสู่การใช้ประโยชน์ของเสียได้ทั้งหมด (Zero waste to landfill) และสอดคล้องตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในยุทธศาสตร์ที่ 4 ที่เน้นการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายประกอบกล่าว
สำหรับภาคอุตสาหกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่เนื่องจากในการดำเนินธุรกิจภาคอุตสาหกรรมก่อให้เกิดกากอุตสาหกรรมขึ้น โดยแต่ละปีพบการขออนุญาตนำกากอุตสาหกรรมออกนอกบริเวณโรงงาน (สก.2) เพื่อนำไปจัดการในรูปแบบต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งการฝังกลบ การเผากำจัด การเผาร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ และการนำไปใช้ประโยชน์ใหม่ ขณะเดียวกันยังคงมีกากอุตสาหกรรมบางส่วนถูกนำไปกำจัดโดยการฝังกลบหรือไม่ได้ถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ดังนั้น เพื่อให้การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กรอ.จึงได้ศึกษาและพัฒนาด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมตามหลัก 3Rs ภายในโรงงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ของเสียอุตสาหกรรมเพื่อลดปริมาณของเสียที่จะต้องส่งกำจัด