SPRC ทบทวนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนโครงการใหม่ในอนาคตเพื่อสร้างการเติบโต โดยปี 63 โรงกลั่นหยุดผลิตน้ำมันอากาศยานตั้งแต่กรกฎาคม
นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ผ่านระบบเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ (EAGM) ว่า ผู้ถือหุ้นได้มีมติรับรองผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางด้านการเงินของบริษัทฯ ประจำปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มการใช้น้ำมันดิบชนิดเบาเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซลสูงสุด หยุดการผลิตผลิตน้ำมันอากาศยานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม มีการปรับปริมาณการผลิตให้เหมาะสมกับความต้องการภายในประเทศ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดในช่วงวิกฤตนี้
บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันจากการปรับปรุงผลการดำเนินงานทางการเงินผ่านโครงการปรับปรุงผลกำไร (Bottom Line Improvement Program : BLIP) ได้อย่างต่อเนื่องที่ 0.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ 0.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2563 โดยผ่านการเลือกใช้น้ำมันดิบให้ได้ผลคุ้มค่ามากที่สุด รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงกระแสเงินสดในปี 2563 ซึ่งสามารถเพิ่มกระแสเงินสดได้ถึง 83.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สามารถตอบสนองต่อความไม่แน่นอนของตลาดจากผลกระทบของการระบาดของโรค COVID -19 และความผันผวนของราคาน้ำมันได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จมากกว่า 7 ปีในการบันทึกชั่วโมงการทำงานโดยไม่มีกรณีการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานกว่า 29.2 ล้านชั่วโมงการทำงาน และไม่มีพนักงานและผู้รับเหมาภายในบริษัทฯ ติดเชื้อโควิด-19
นายพอตเตอร์กล่าวว่า ในปัจจุบันสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผลกระทบต่างๆ ยังคงมีอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจ SPRC จะสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ ได้มีการทบทวนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ พันธกิจ และปัจจัยความสำเร็จของบริษัทฯ (KRAs) เพื่อสะท้อนถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มั่นใจว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืน แม้ว่าเศรษฐกิจและสังคมจะเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 SPRC ยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการทำงานโดยปราศจากอุบัติการณ์ การบาดเจ็บและการติดเชื้อ (incident, injury and infection free) เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาสและโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและลดต้นทุน รวมถึงศึกษาโอกาสในการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
SPRC เป็นหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โรงกลั่นน้ำมันมีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว โพรพิลีนเกรดพอลิเมอร์ แนฟทาเกรดปิโตรเคมี น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเกรดพิเศษและเกรดธรรมดา น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา และยางมะตอย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ถูกจำหน่ายในตลาดภายในประเทศเป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่จำหน่ายผ่านเชฟรอน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) และสารตั้งต้นสำหรับปิโตรเลียมเคมีจำหน่ายให้แก่ บริษัทปิโตรเคมีในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด