“ศักดิ์สยาม” มอบอำนาจตัวแทนแจ้งความดำเนินคดีบุคคลเจ้าของทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กโพสต์ภาพและข้อความ ทำให้เสียหาย เสียชื่อเสียง กรณีอยู่ในสถานบันเทิงพร้อมประกอบภาพชายซึ่งไม่ใช่ตนเอง ฐานผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ยันขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 8 เม.ย. เวลาประมาณ 19.46 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบอำนาจให้ นายทิวา การกระสัง เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีต่อ 1. ผู้ใช้บัญชีในทวิตเตอร์ว่า รำพึง และผู้ดูแลบัญชีชื่อ “รำพึง” และมีรหัสผู้ใช้ ผู้ดูแลบัญชีชื่อ “@CHARISA-ph” โดยการนำภาพชายบุคคลหนึ่งถือโทรศัพท์ ตามภาพที่ 1 ภาพที่ 2 และภาพที่ 3 เป็นภาพสถานบันเทิง ในภาพที่ 1 โพสต์ข้อความว่า “ไทม์ไลน์ที่หายไป อยู่นี่หรือป่าวน๊า เอ๊...คนหน้าคล้าย หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดีนะ” มีภาพหน้าบุคคลเป็นสัญลักษณ์เป็นข้อความว่า ศักดิ์สยามชิดชอบ ศักดิ์สยาม โควิด 19 โควิด โควิด
ภาพและข้อความดังกล่าวเป็นภาพและข้อความอันเป็นเท็จ เนื่องจากบุคคลในภาพไม่ใช่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่มีการใช้ข้อความว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ศักดิ์สยามโควิด19 และมีภาพสถานบันเทิง ประกอบภาพชายซึ่งไม่ใช่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทำให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ทราบความจริงเข้าใจว่าบุคคลดังกล่าวเป็นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปเที่ยวสถานบันเทิงแล้วติดโควิด-19 ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ได้รับความอับอายจากการโพสต์ข้อความข้างต้น
2. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Somchai Tum jaitong” โดยการโพสต์ภาพชายคนหนึ่งถือโทรศัพท์มือถืออยู่ที่สถานบันเทิง แล้วใช้จุดไข่ปลาเป็นวงกลมเส้นประสีแดง ในวงกลมรูปหน้าของชายดังกล่าว แล้วนำภาพ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มาใช้จุดไข่ปลาเป็นวงกลมเส้นประสีแดงรูปหน้าของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เพื่อเป็นการเปรียบเทียบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน แล้วพิมพ์ข้อความว่า “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ยืนยันว่าไม่เคยไปเที่ยวผับแถวย่านทองหล่อ ไม่เคยเที่ยวแต่หมาตัวไหนยืนหัวโด่หน้าเวทีวะ” เป็นการยืนยันว่าภาพชายดังกล่าวเป็นภาพของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งไม่เป็นความจริง ภาพและข้อความดังกล่าว เป็นเท็จ เนื่องจากบุคคลในภาพไม่ใช่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
การกระทำดังกล่าวของบุคคลทั้งสองเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 16 วรรคแรก ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของบุคคลอื่น และภาพนั้นเกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
