“ศักดิ์สยาม” ประกาศกักตัว 14 วัน หลังทีมงานติดเชื้อโควิดจากการไปสถานบันเทิงเมื่อ 30 มี.ค. เผยตนเองไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แล้ว ยืนยันไม่มีเชื้อ พร้อมสั่งทีมงานตรวจเชื้อ และทำความสะอาดห้องทั้งหมด ขณะที่มอบ ”อธิรัฐ” ปฏิบัติหน้าที่แทน
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า วันนี้ (6 เม.ย.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ติดตามประสานงานหน้าห้อง รมว.คมนาคม รายหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งเป็นทีมงานประสานงานของ รมว.คมนาคม โดยหลังจากรับทราบ นายศักดิ์สยาม ได้เดินทางไปตรวจเชื้อและกักตัวทันที
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าววว่า ช่วงเช้าวันนี้ (6 เม.ย.) ตนได้ไปทำบุญที่พรรคภูมิใจไทย และมีการประชุมพรรคต่อ จากนั้นได้เดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเมื่อลงเครื่องบิน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ติดตามประจำกระทรวงคมนาคม ว่า เขาได้เข้าแอดมิดที่โรงพยาบาล หลังจากตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการสอบถาม แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น รู้สึกไม่สบาย เป็นไข้ ระคายคอ ประมาณ 2-3 วัน จึงได้ไปพบแพทย์และตรวจเมื่อวันที่ 5 เม.ย. และผลออกวันที่ 6 เม.ย.พบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยได้แอดมิดทันที
ซึ่งเมื่อตนทราบก็ได้มีการแยกตัวออกจากคณะ และเดินทางไปโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ทำการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกและคอ (SWAB) และตรวจเลือดด้วย ซึ่งผลออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อ ซึ่งเพื่อความสบายและเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม ตนจะทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เริ่มจากวันนี้ (6 เม.ย.) ไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย. ตามคำแนะนำของหมอ โดยจะมีการตรวจเชื้อซ้ำอีกหลังจากนี้ 3 วัน
นอกจากนี้ ได้สั่งให้ทีมงานทั้งหมด ตรวจเชื้อ และทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องทำงานทั้งหมด ซึ่งจะเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี
ทั้งนี้ ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยในวันที่ 7 เม.ย. จะลาการประชุม ครม. รวมถึงมอบหมายให้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่แทน ในพิธีเปิดใช้มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา เป็นการชั่วคราว ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ย้อนไทม์ไลน์หลังจากวันที่ 30 มี.ค.นั้น มีงาน Kick off เรื่องความเร็วรถไม่เกิน 120 กม./ชม. โดยมีการเปิดเส้นทางต้นแบบ ที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วงบางปะอิน-ต่างระดับอ่างทอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และมีการใช่เจลแอลกอฮอล์ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อยู่ตลอด
