“สหไทย เทอร์มินอล” ลั่นรายได้ปีนี้โต 15% แม้ว่าไตรมาส 1 นี้จะได้รับผลกระทบจากตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน มั่นใจไตรมาส 2/64 ปัญหาคลี่คลาย พร้อมอัดงบลงทุนปีนี้ 211 ล้านบาทใช้ลงทุนโครงการท่าเรือ BRT และการซ่อมบำรุงท่าเรือ
นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT ผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปี 2564 เติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,359,94 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวค่อนข้างดีของการนำเข้าและส่งออกสินค้า แม้ว่าในไตรมาสแรกปีนี้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน แต่เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายในไตรมาส 2 เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีปริมาณการนำเข้า-ส่งออก 30,000 ตู้
นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการให้บริการห้องเย็นในพื้นที่คลังสินค้าทัณฑ์บน (cold chain) ซึ่งมีลูกค้าเช่าใช้เต็มพื้นที่แล้ว บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะขยายการให้บริการห้องเย็นฯ ในส่วนนี้เพิ่มเติม
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 เติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ต่ำกว่าไตรมาส 4/2563 เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และมีปริมาณการนำเข้าและส่งออกมากกว่าทุกไตรมาส
นายบัญชัยกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 211 ล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนโครงการท่าเรือ BRT และซ่อมบำรุงเครื่องจักรและท่าเรือ รวมทั้งโครงการอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้า 2 โครงการใหม่แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องล่าช้าออกไปบ้าง โดยโครงการท่าเรือแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 ภายใต้ บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (BRT) ที่บริษัทร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด และกลุ่มน้ำตาลมิตรผลคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี 2564 หรือต้นปี 2565
ส่วนโครงการโลจิสติกส์พาร์คและศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง PORTกับ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปีหน้า ล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในกลางปี 2564 ปัจจุบันบริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าที่จะมาใช้บริการไว้บ้าง