“ศักดิ์สยาม” เตรียมตรวจมอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช” ก่อนเปิดชั่วคราวสงกรานต์ - ปมปรับแบบอาจต้องประมูลใหม่บางช่วง

“ศักดิ์สยาม” เตรียมลงพื้นที่ “มอเตอร์เวย์” บางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงลำตะคอง เช็กความพร้อมก่อนเปิดให้ประชาชนใช้ชั่วคราวสงกรานต์นี้ เล็งให้วิ่งช่วงหยุดยาวเป็นครั้งคราว เพื่อระบายจราจร เร่ง ทล.สรุปปรับแบบ 17 ตอนจ่อประมูลใหม่บางช่วงเหตุเนื้องานเพิ่มจากเดิม ยันต้องทำให้ถูกกฎหมายส่วน O&M บางใหญ่-กาญจนบุรี คาดเซ็นสัญญา เม.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน มี.ค.หรือต้นเดือน เม.ย.นี้ ตนจะลงพื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา เพื่อตรวจความพร้อมในการเปิดให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางเป็นการชั่วคราวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยมีการประเมินเส้นทางช่วงที่ก่อสร้างงานโยธาเสร็จแล้ว แต่ทั้งนี้ถือว่าโครงการยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะยังไม่มีระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ทางขึ้นลงจะต้องทำเพิ่มเติม ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) จะต้องเข้าไปดำเนินการ รวมถึงการจัดจราจรเพราะสามารถใช้ได้เพียงฝั่งเดียว

ทั้งนี้ หลังเปิดให้ใช้เส้นทางชั่วคราวช่วงสงกรานต์แล้ว ภาพรวมมีความเรียบร้อยดีจะพิจารณาเปิดให้ประชาชนขึ้นใช้เป็นครั้งคราวได้อีกกรณีที่เป็นวันหยุดยาว เพื่อช่วยระบายจราจรบนทางหลวง

สำหรับการปรับแบบก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา 17 ตอน จากทั้งหมด 40 ตอนนั้น ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว 3 ตอน หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลและความจำเป็นในการปรับแบบเนื่องจากไม่ได้มีการออกแบบไว้ก่อน เช่น การทำกำแพงครอบบริเวณเรือนจำกลางคลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว ซึ่งในขั้นตอนการศึกษาออกแบบนั้นเรือนจำยังไม่ได้ก่อสร้าง ส่วนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้ และเป็นอำนาจของอธิบดีกรมทางหลวง

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ส่วนที่เหลืออีก 14 ตอน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยในส่วนของค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่มีปัญหาเพราะโครงการมีวงเงินเหลือประมาณ 11,000 ล้านบาท จากประหยัดได้จากการประกวดราคา แต่ประเด็นคือจะทำอย่างไรให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ส่วนกรณีการปรับแบบแล้วพบว่าเกิดเป็นงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากแบบเดิม ต้องแยกงานออกมาเปิดประมูลใหม่เพราะถือว่าเป็นเนื้องานใหม่เพิ่มเติม รวมถึงจะต้องสอบข้อเท็จจริงด้วยว่าเกิดปัญหานี้ได้อย่างไร เช่น ช่วงที่ปรับจากทางระดับดินเป็นสะพาน เพราะพบว่ากายภาพพื้นที่เปลี่ยนจากแผ่นดินเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ นอกจากทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มแล้วยังอาจจะส่งผลให้ระยะทางโครงการที่จะเปลี่ยนไปได้อีกด้วย

“ทุกอย่างมีหลักฐาน มีภาพถ่ายทางอากาศ ตรวจสอบได้หมด หรือจุดที่เป็นภูเขาการสำรวจไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขาจริงแต่ใช้เลเซอร์ประเมิน ก็ต้องตรวจสอบว่าในขั้นตอนการสำรวจออกแบบได้กำหนดวิธีการสำรวจออกแบบไว้อย่างไร ให้ทำแบบนั้นหรือไม่ และต้องดูว่าถูกต้องตามหลักวิชาการหรือไม่ด้วย”

คาดเซ็นสัญญา O&M สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เม.ย.นี้

สำหรับโครงการร่วมลงทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) คาดว่าในเดือน เม.ย.นี้จะสามารถลงนามสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M 81) กับกลุ่ม BGSR (บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ได้ โดยทล.อยู่ระหว่างประเมินความก้าวหน้าของงานโยธาเพื่อเตรียมกำหนดวันออก NTP ให้เข้าพื้นที่ต่อไป

ส่วน O&M สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M 6) ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะลงนามได้เมื่อใด เนื่องจากงานโยธายังมีปัญหา โดยเฉพาะช่วงที่มีการปรับแบบ 14 ตอน เกรงว่าหากไม่ชัดเจนจะไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ตามกำหนด จะเกิดค่าโง่ได้ ตนไม่ต้องการให้มีปัญหาฟ้องร้องกันภายหลัง

โดยวันที่ 16 มี.ค. ที่สำนักงานโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ตอนที่ 24 ลำตะคอง นายนรินทร์ ศรีสมพันธุ์ วิศวกรใหญ่ด้านวางแผนและวางโครงการก่อสร้าง กรมทางหลวง (ทล.) เป็นประธานติดตามความก้าวหน้าเตรียมความพร้อมการเปิดให้ประชาชนใช้บริการ มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงบริเวณลำตะคลอง ช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์เดือน เม.ย.นี้ เพื่อแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงตัดผ่านลำตะคอง เป็นการก่อสร้างตอนที่ 24 - ตอนที่ 37 ระยะทางประมาณ 30 กม. แต่เนื่องจากมอเตอร์ช่วงดังกล่าวไม่มีทางขึ้นลง ดังนั้น ระหว่างที่เปิดให้บริการจำเป็นต้องมีการปรับเบี่ยงการจราจรเพื่อให้รถขึ้นลงได้ รวมถึงจะมีการติดตั้งป้ายเครื่องหมาย การจัดทำแผนช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินบนมอเตอร์เวย์ด้วย เบื้องต้นอาจจะเปิดให้บริการฝั่งเดียว โดยเน้นระบายรถออกเพื่อส่งคนกลับบ้าน ส่วนขากลับจะรับรถเข้าเมืองอย่างเดียว

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะใช้ถนนมอร์เตอร์เวย์ช่วงดังกล่าวจะต้องขึ้นที่จุดทางขึ้นที่กำหนดและลงปลายทางเท่านั้น ไม่สามารถลงกลางทางได้ ส่วนระยะเวลาที่จะเปิดให้บริการยังไม่ได้กำหนดแน่นอน อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาให้สอดคล้องกับช่วงวันเวลาการเดินทางของประชาชนช่วงวันหยุดสงกรานต์อีกครั้ง ซึ่งวันที่ 17 มี.ค. นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง จะประชุมพิจารณารายละเอียดเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการอีกครั้ง