ผู้จัดการรายวัน 360 - “ชุงมันไทยแลนด์” ซุ่มขายกิจการร้านไก่ทอดเกาหลีชุงมันในไทยตามแผนในปีหน้า หลังจากที่ขยายสาขาครบ 40 แห่ง ปีนี้ลั่นเพิ่มสาขาแฟรนไชส์อีกสิ้นปีเป็น 30 สาขา
นายจินซอง ซอ ประธานบริหาร หรือซีอีโอ บริษัท ชุงมัน (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้รับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ร้านไก่ทอดเกาหลี (Choongman Chicken) จากเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเริ่มการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการแก่ผู้ที่สนใจที่จะเข้ามาซื้อกิจการไก่ทอดแบรนด์ชุงมันจากเกาหลีใต้ จากบริษัทซึ่งเป็นผู้รับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์รายเดียวจากชุงมันเกาหลีใต้ รับผิดชอบตลาดไทย ซึ่งวางมูลค่าการซื้อขายกิจการไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เฉพาะในไทยเท่านั้น
ทั้งนี้ การขายกิจการดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า การรุกตลาดประเทศไทยในช่วงปีแรก คือ ปีที่แล้ว (2563) ที่ต้องเร่งเปิดสาขาให้ได้มากก่อนเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งเปิดสาขาแรกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่โคเรียทาวน์ อโศก สุขุมวิท 12 เป็นการลงทุนของบริษัทเอง จากนั้นก็ขยายสาขาในรูปแบบขายแฟรนไชส์มาตลอด และในปีแรกนี้เปิดร้านได้ถึง 7 สาขา ปัจจุบันมีเปิดบริการแล้วรวม 11 สาขาในไทย คือ บิซโซ่ บางนา, กลาสเฮ้าส์ รัชดา, ถนนพัฒนาการ 50, ซีคอน บางแค, อินท์ อินเตอร์เซค พระราม 3, สยามเซ็นเตอร์, แฟชั่น ไอซ์แลนด์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ยูเนี่ยน มอลล์ และล่าสุดสาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า
ส่วนปีที่ 2 (ปีนี้ 2564) มีแผนที่จะทำการตลาดเต็มที่และจะขยายสายขาต่อเนื่อง ในเดือนมีนาคม-เมษายนมีแผนเปิดอีก 4 สาขา คือ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสาขาซัมเมอร์ ฮิลล์ พระโขนง และเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะเปิดอีก 6 สาขา คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมประมาณ 30 สาขาตามแผนเดิม แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมากกว่าแผนงานคือเปิดได้ถึง 40 สาขา เนื่องจากว่่าได้มีการเซ็นสัญญากับผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปครบแล้ว เพียงแต่ว่าอีก 10 รายยังหาทำเลที่เหมาะสมในการเปิดร้านไม่ได้ โดยลงทุนประมาณ 8-10 ล้านบาทต่อสาขา
สำหรับปีที่ 3 คือ ภายในปีหน้า (2565) วางเป้าหมายมีครบ 40 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และมีแผนที่จะขายกิจการดังกล่าวตามที่กล่าวไว้ จากสาเหตุที่ว่าหากจะขยายสาขาจำนวนเพิ่มมากกว่านี้จะเป็นการเกินความสามารถในการบริหารจัดการดูแล อีกทั้งทางตนก็ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์อาหารจากเกาหลีใต้แบรนด์อื่นที่ตนจะเป็นผู้รับสิทธิเข้ามาทำตลาดด้วย เป็นอาหารเหมือนกันแต่ไม่ใช่ไก่
“มูลค่าการขายกิจการที่มากถึง 1,500 ล้านบาท นั้นก็เป็นค่าแฟรนไชส์ ค่าลิขสิทธิ์ ค่าบริหารจัดการ และจะต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายคืนให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวน 2 เท่าของงบที่ลงทุนไปแต่ละสาขา เพื่อนำสาขานั้นคืนให้กับผู้ซื้อกิจการรายใหม่ และแฟรนไชส์เดิมเหล่านั้นจะมาเป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใหม่ที่เราจะเข้ามาทำตลาดด้วย ซึ่งมีประมาณ 15 รายรวมทั้งหมด 40 สาขา เพราะทุกรายจะมีการขยายสาขาเพิ่มไม่ได้ทำเพียงสาขาเดียว” นายจินซอง ซอ กล่าว
สำหรับการเจรจาขณะนี้เป็นเพียงการเจรจาเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่มีการสรุป เพราะยังไม่ถึงเวลาตามแผนงาน โดยมีผู้ที่สนใจเจรจาหลายรายทั้งที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับไก่อยู่แล้ว กับกลุ่มธุรกิจอาหารอื่น
ส่วนบริษัท ชุงมันไทยแลนด์นี้ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างนายจินซอง กับชุงมันเกาหลีใต้ ฝ่ายละ 50% ซึ่งนายจินซอง ซอ ยังเป็นผู้ที่ถือลิขสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์สร้านซอลบิง เป็นร้านบิงซูจากเกาหลีอีกด้วย โดยมีเปิดบริการแล้ว 2 สาขาที่อโศก สุขุมวิท 12 และเทอร์มินัล โคราช
ส่วนร้านชุงมันชิคเค่นเกาหลีเปิดบริการครั้งแรกเมื่อปี 2552 ที่เกาหลีใต้ และขยายสาขาต่อเนื่องถึงปี 2557 มีมากถึง 160 สาขา นอกจากนั้นขายแฟรนไชส์ไปที่อเมริกามีแล้ว 30 กว่าสาขา และมีที่เวียดนามอีก 2 สาขา
สำหรับจุดแข็งของร้านชุงมันชิคเค่น (Choongman Chicken) ซึ่งมีเมนูซิกเนเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์เกาหลี เช่น เมนู Snow Onion ซึ่งเป็นไก่ทอดไม่มีกระดูก กินคู่กับหอมใหญ่และครีมซอส และเมนู Bacon Spinichi เป็นไก่ทอดไม่มีกระดูก กินคู่กับผัก 3 ชนิด คือ มะเขือเทศ หอมใหญ่ และผักโขม คลุกเคล้ากับซอสสูตรเฉพาะจากชุงมัน และโรยหน้าด้วยเบคอนหอมกรุ่น และเมนู Tikkudak Series เป็นไก่ทอดชุบซอส มีให้เลือกหลากรสชาติ โดยนำไปอบในเตาถ่านอีกครั้ง พร้อมยังเสริมเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินไก่ทอดคู่กับเบียร์ในสไตล์เกาหลี ที่เรียกว่า “ชิแม็ก (ชิเค่น+แม็กจู)”
