บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น หรือซีพี เวียดนาม จัดอบรม Capacity building for partnership ในหัวข้อ การปฏิบัติการด้านแรงงานและความปลอดภัยในการทำงานตามกฎหมาย ให้แก่คู่ค้าธุรกิจหลัก เป็นปีที่ 2 เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและการบริหารจัดการธุรกิจของคู่ค้ารายย่อยในประเทศเวียดนามให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายชำนาญ หวังอัครางกูร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสัตว์บก และผลิตภัณฑ์อาหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดหาอย่างยั่งยืน ซีพี เวียดนาม กล่าวว่า การอบรม Capacity building for partnership เป็นไปตามนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืนของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ที่รวมหลักการ 4P ได้แก่ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ (Product) การปฏิบัติต่อบุคลากรอย่างเป็นธรรมตามสิทธิมนุษยชน (People) การใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Process) และมีระบบการบริหารงานอย่างโปร่งใส (Performance)
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทจึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่คู่ค้า โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานสากล
“ซีพี เวียดนามเชื่อว่าความสำเร็จที่มั่นคงและยั่งยืนจำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างบริษัทกับคู่ค้าธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจของคู่ค้ากับองค์กรชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก ที่ปัจจุบันต่างให้ความสำคัญในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หลักธรรมาภิบาล และการสร้างห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่ยั่งยืน” นายชำนาญกล่าว
นายวรวิทย์ อรุณรักษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของซีพี เวียดนาม เสริมว่า บริษัทได้จัดการประชุม Capacity building for partnership ขึ้นครั้งแรกในปี 2562 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่คู่ค้าสำคัญทางตอนใต้ของประเทศจำนวน 78 บริษัทในกลุ่มบรรจุภัณฑ์และเครื่องปรุง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคู่ค้า สำหรับการอบรมในครั้งนี้เป็นการต่อยอดไปยังคู่ค้าใหม่อีก 70 บริษัทที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และมีการขยายครอบคลุมคู่ค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ เครื่องปรุง เชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์ อะไหล่เครื่องจักร และบริการ
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 การอบรมในครั้งนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ โดยมีวิทยากรจากบริษัท SGS องค์กรชั้นนำของโลกทางด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบ มาให้ความรู้ด้านกฎระเบียบและการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานและมาตรฐานสากล และวิทยากรจากหน่วยงาน SHE&EN ของซีพี เวียดนาม ให้ความรู้ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย สุขอนามัยในการทำงาน เพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทอีกด้วย
นอกจากนี้ ซีพี เวียดนามยังส่งเสริมให้คู่ค้ามีการตรวจประเมินตนเองด้านความยั่งยืน (Online Self- Assessment) ในการลดความเสี่ยงด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และกำกับกิจการที่ดีในห่วงโซ่อุปทาน และการตรวจประเมินคู่ค้าธุรกิจหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้ามีการดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมายและได้มาตรฐานการดำเนินงานของบริษัท
“การอบรมในครั้งนี้ทำให้ซีพี เวียดนาม สามารถยกระดับคู่ค้าได้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศเวียดนาม ซึ่งหลังจากที่คู่ค้ามีความรู้และความเข้าใจในประเด็นต่างๆ จากการอบรมแล้ว ทางบริษัทจะเข้าไปให้คำปรึกษา และช่วยเหลือให้คู่ค้าของเรา เพื่อพัฒนากระบวนการทำงาน ยกระดับพวกเขาสู่มาตรฐานสากล” นายวรวิทย์กล่าว
ซีพี เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจ ควบคู่ไปกับยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งเกษตรกร และแรงงานในห่วงโซ่คุณค่า จนเป็นที่ยอมรับของทั้งภาครัฐ และประชาชน ทำให้บริษัทได้รับรางวัลธุรกิจยั่งยืน CSI 100 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากสภาพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนแห่งชาติเวียดนาม (VBCSD) รวมถึงถูกจัดอันดับ TOP 10 ด้าน manufacturing sector ในปี 2020