xs
xsm
sm
md
lg

กรมเชื้อเพลิงฯ เร่งเชฟรอน-ปตท.สผ.เคลียร์ปัญหาเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณ ป้องค่าไฟพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ประสานเชฟรอนฯ และ ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ หวังเร่งแก้ปัญหาการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณล่าช้า ไม่ให้กระทบต่อการผลิตก๊าซฯ เพราะหากล่าช้าต้องนำเข้าแอลเอ็นจีราคาสูงกระทบค่าไฟฟ้าได้


นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
เปิดเผยว่า กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทานปัจจุบันแหล่งเอราวัณ กับบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ (บริษัทในเครือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ในฐานะผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ PSC ในแปลง G1/61 (แหล่งกลุ่มเอราวัณเดิม) ยังไม่สามารถตกลงเรื่องการขอเข้าพื้นที่และเตรียมการดำเนินการต่างๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) จากระบบสัมปทานที่จะสิ้นสุดระยะเวลาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ได้ โดยกรมฯ ได้ประสานให้ทั้งสองฝ่ายให้มีการเจรจาโดยเร็วที่สุด

“การเข้าพื้นที่ล่าช้า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่อยู่ในกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ เพราะเรื่องดังกล่าวก็เป็นไปตามกระบวนการทางข้อกฎหมาย ซึ่งอาจมีความเห็นไม่ตรงกันได้และสามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปแล้วแต่กรณี แต่การเข้าพื้นที่ของผู้รับสัญญารายใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) นั้น เป็นความจำเป็นที่ต้องได้รับความร่วมมืออย่างเร่งด่วนและจริงใจของทั้งสองฝ่าย ทั้งรายปัจจุบันและรายใหม่ เพื่อการบริหารพลังงานของประเทศจะไม่มีการสะดุด และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยกรมฯ จะพยายามเร่งให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหารือโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายต้องยึดประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก” นายสราวุธกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมในการประสานงานกับทุกฝ่าย หาก ปตท.สผ.เข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณล่าช้า อาจทำให้ ปตท.สผ.ไม่สามารถรักษาระดับการผลิตก๊าซธรรมชาติ แหล่งเอราวัณ ได้ตามเป้าหมาย วันละ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน หลังหมดสัญญาสัมปทานปี 2565 โดยเตรียมพร้อมนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) มาทดแทน ซึ่งหากราคาแอลเอ็นจีในช่วงนั้นสูงกว่าราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทย ณ ช่วงนั้นก็จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวสูงกว่าที่ควรจะเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น