กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผุดแคมเปญ SV TEAM CHALLENGE

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต่อยอดโมเดลกลยุทธ์เฉพาะกิจ KING POWER TEAM POWER มอบประสบการณ์เหนือระดับและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าจากสินค้าและบริการ ครอบคลุมทั้งระบบออนกราวน์-ออนไลน์ของธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ ผ่านการใช้รหัสพนักงาน (SV Code) ในแคมเปญใหม่ SV TEAM CHALLENGE ภายใต้แนวคิด Life Beyond Boundaries กระตุ้นวงการค้าปลีกและธุรกิจท่องเที่ยว โดยพร้อมเปิดให้รับสิทธิประโยชน์พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ผู้นำด้านธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์เองก็ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ผ่านมา เราได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วยโครงการ KING POWER TEAM POWER ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนในบริษัทฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างการรับรู้และร่วมขายสินค้า โดยมอบส่วนลดให้ลูกค้าผ่านรหัสพนักงาน หรือ SV Code ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการบนช่องทางออนไลน์ KINGPOWER.COM และ คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น ช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้พนักงานของเรามีรายได้เสริมจากการขายสินค้า และสำหรับลูกค้า ก็สามารถซื้อสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังได้ส่วนลดที่คุ้มค่า”

ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดจากผลตอบรับของลูกค้าชาวไทยต่อโมเดลธุรกิจ KING POWER TEAM POWER ที่ประสบความสำเร็จ คิง เพาเวอร์ จึงมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งและบริการเหนือระดับ ด้วยสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น จากธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ แก่ลูกค้าในแคมเปญใหม่ “SV TEAM CHALLENGE” อันเกิดจากการผสานประโยชน์จากสินค้าและบริการของธุรกิจในกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึง เลือกซื้อได้มากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงบริการของธุรกิจท่องเที่ยวในกลุ่มบริษัทที่ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากขึ้น อาทิ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ และคิง เพาเวอร์ มหานคร แคมเปญ โดย SV TEAM CHALLENGE สนับสนุนให้ทีมขายซึ่งเป็นพนักงานบริษัทวางแผนร่วมกันเป็นทีม มีการกำหนดกลยุทธ์การขาย และเป้าหมายร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เสริมให้มากขึ้น 
นายอัยยวัฒน์กล่าวย้ำว่า “SV TEAM CHALLENGE  เป็น Extraordinary Campaign ที่สะท้อนรูปแบบการบริหารจัดการธุรกิจที่ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบแบบเดิมๆ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงวิกฤต โดยแคมเปญนี้พัฒนามาจากแนวคิด Life Beyond Boundaries ที่ต้องการมอบประสบการณ์ระดับโลกอย่างไร้ขีดจำกัดแก่ลูกค้า ผ่านการผนึกความร่วมมืออย่างเข้มแข็งภายในองค์กร สู่การส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่น่าประทับใจออกสู่ภายนอก โดย คิง เพาเวอร์ ได้สร้างองค์ความรู้และกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับการขายสินค้าแก่พนักงานทุกระดับ ทุกแผนก การสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นการขายอย่างต่อเนื่อง เป็นการบริหารจัดการศักยภาพบุคลากรในภาวะวิกฤตและเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไปในอนาคต โดยพนักงานจะเริ่มมอบส่วนลดผ่าน SV Code ในแคมเปญพร้อมกันวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ศกนี้”   
สำหรับแคมเปญ SV TEAM CHALLENGE  ลูกค้าทั้งที่มีและไม่มีไฟลต์บินสามารถใช้โค้ดรหัสพนักงาน หรือ SV Code สั่งซื้อสินค้า Duty Free  และ Non Duty Free ผ่านช่องทางออนไลน์ www.kingpower.com และแอปพลิเคชัน KINGPOWER นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนลดเพื่อรับบริการจากธุรกิจอื่นๆ เช่น ส่วนลดห้องอาหารที่ คิง เพาเวอร์ มหานคร และโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์, ส่วนลดจากศูนย์อาหารสตรีทฟู้ดส์ ไทย เทสต์ ฮับ (Thai Taste Hub) ได้อีกด้วย   
“ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปกว่า 90% ได้ปรับรูปแบบแคมเปญให้ลูกค้าคนไทยเข้าถึงสินค้าที่จำหน่ายผ่านเว็บไซต์และหน้าร้านของ คิง เพาเวอร์ ด้วยแคมเปญที่มอบความคุ้มค่าโดยที่ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ซื้อได้ในรูปแบบสินค้า Home Delivery  ซึ่ง คิง เพาเวอร์ เป็นผู้ชำระภาษีให้ลูกค้า และยังได้สิทธิประโยชน์เพิ่มจาก  SV Code โค้ดพนักงานที่ให้ส่วนลดเพิ่ม โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าคือ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและน้ำหอม โดยคาดว่าหลังจากเปิดตัวแคมเปญ SV TEAM CHALLENGE จะส่งผลให้สินค้าและบริการในกลุ่มบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของห้องอาหาร ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า และเข้าถึงง่ายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน บริษัทสร้างบรรทัดฐานใหม่ด้านสุขอนามัยสำหรับการให้บริการ ตามแนวทาง King Power Care Power ให้เกิดผลเพื่อการควบคุมโรคในปัจจุบันและการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตหลังสถานโควิด-19 คลี่คลาย” นายอัยยวัฒน์กล่าวสรุป