ผู้จัดการรายวัน 360 - โซเชียลคอมเมิร์ซ อนาคตแห่งการขาย เครื่องมือสำคัญดันมูลค่าเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในไทยปี ค.ศ. 2025 พุ่งทะลุ 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Shoplus สบช่องปีนี้บุกหนักกลุ่มลูกค้า SMEs แจ้งเกิดสร้างยอดขายบนโลกออนไลน์ มั่นใจดันรายได้โต 2.8 เท่า เทียบเคียงปีก่อน
นางสาวคิมมี เฉิน ผู้จัดการทั่วไป Shoplus ผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI ระบบจัดการร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียลมีเดียแบบครบวงจรตั้งแต่ AI-Live Sell, AI-Chatbot, ระบบจัดการออเดอร์อัจฉริยะ ไปจนถึง AI Social CRM เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมาทั่วโลก พบว่าในเซาท์อีสต์เอเชียมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานถึง 400 ล้านคน โดยใน 400 ล้านคนนั้น มีจำนวน 1 ใน 3 เริ่มใช้ดิจิทัลเซอร์วิสจากสถานการณ์โควิด-19 และกว่า 95% จะใช้บริการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ขณะที่ในประเทศไทยกว่า 75% จะใช้โซเชียลมีเดีย
จากการเติบโตที่เกิดขึ้น เชื่อว่าภายในปี ค.ศ. 2025 ประเทศไทยจะมีมูลค่าเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตสูงถึง 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโตจากปี ค.ศ. 2020 ถึง 25% จากมูลค่าเพียง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในส่วนของการใช้โซเชียลคอมเมิร์ซ มีมูลค่าถึง 12,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ค.ศ. 2025
ทั้งนี้ ก่อนเกิดโควิด-19 จะเห็นได้ว่ามีแต่กลุ่มร้านค้าย่อยที่มุ่งการขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ และหลังโควิด-19 จะเห็นแบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาในช่องทางนี้มากขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ โดยใช้เฟซบุ๊ก และแชตบอตเป็นเครื่องมือ เช่น เมย์เบอลีน, OPPO, เทสโก้ และยูนิลีเวอร์ในต่างประเทศ ส่วนในไทย ได้แก่ 1. นารายา ที่หันมาใช้โซเชียลคอมเมิร์ซ และ KOL โดยเลือกใช้บริการกับทาง Shoplus จากนั้น เริ่มไลฟ์ขายเอง 2. บาร์บีคิว พลาซ่า ที่ใช้บริการ AI โซลูชันขายสินค้าเรดดี้ทูอีท สินค้าพรีเมียม และคูปองสมนาคุณ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี พิมรี่ พาย ที่ใช้บริการกับทาง Shoplus ที่ถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการใช้โซเชียลคอมเมิร์ซในการสร้างยอดขาย
นางสาวคิมมี่กล่าวว่า จากการที่มีลูกค้าใช้บริการ Shoplus มากขึ้น ส่งผลให้ในปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา มีรายได้ในระบบกว่า 2,230 ล้านบาท โดยพบว่าในไทยเครื่องมือในการทำโซเชียลคอมเมิร์ซ คือ 1. ระบบจัดการออเดอร์ 2. การขายผ่านลิงก์ 3. Auto- detection 4.AI- Chatbot 5.messenger broadcasts และ 6.payment reminder
ขณะที่ในปี ค.ศ. 2021 ทางShoplus จะมุ่งให้บริการลูกค้าในกลุ่มขนาดเล็กถึงกลางมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs คิดเป็นสัดส่วน 80% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด จากปัจจุบันมีอยู่ในระบบกว่า 17,000 ราย พร้อมเพิ่มบริการฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างโซเชียล CRM, ไลฟ์บน IG และAI โซเชียลคอมเมิร์ซ เป็นต้น มั่นใจว่าในปี ค.ศ. 2021 นี้จะมีรายได้โตขึ้นอีก 2.8 เท่า เช่นเดียวกับปีก่อน เนื่องจากมั่นใจว่า ประเทศไทยจะเป็นตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเซาท์อีสต์เอเชียในอนาคตแน่นอน
โดยในปี 2564 นี้ Shoplus ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 300% สอดรับกับพฤติกรรมการค้าปลีกรูปแบบใหม่ช่องทางออนไลน์ ซึ่งการค้าปลีกแบบเดิมถูกลดความสำคัญและมีผู้เล่นอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ขึ้นมาแทนที่ 1
“ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไปและหันมาชอปปิ้งผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น นักชอปกว่า 52% ในประเทศไทยมีปฏิสัมพันธ์กับร้านผ่านโซเชียลมีเดียก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า แบรนด์ควรให้ความสำคัญต่อการตอบรับเทรนด์ไลฟ์สดขายสินค้าเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และ Shoplus ได้มอบบริการสำเร็จรูปแบบครบวงจรที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับแต่ละแบรนด์มากที่สุด” คิมมี กล่าวเสริม
บริการใหม่จาก Shoplus ครอบคลุมทั้งฟีเจอร์ไลฟ์สดบนเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าผ่านไลฟ์สดและข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้าของแบรนด์ โดยมีแพกเกจ AI Master ที่ครอบคลุมทั้งระบบจัดการออเดอร์ แชตบอตอัตโนมัติ และฟีเจอร์จัดการการขาย เพื่อการไลฟ์สดขายสินค้าบนเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม และแพกเกจ Social CRM ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น แบรนด์สามารถใช้บริการครบทุกฟังก์ชันอย่างครอบคลุมในราคา 100,000 บาทต่อเดือน และยังมีแพกเกจ AI Professional สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ AI Starter สำหรับร้านค้าอิสระขนาดเล็กอีกด้วย