xs
xsm
sm
md
lg

ไทยตั้งการ์ดสูงคุมเข้มป้อง “ไข้หวัดนก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) เกี่ยวกับการพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกชนิดรุนแรง 5 ชนิด ได้แก่ H5Nx H5N1 H5N5 H5N6 และ H5N8 ทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย โดยเอเชียพบที่ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน กัมพูชา เวียดนาม อิรัก และอิหร่าน ส่งผลให้ทุกประเทศหันกลับมาเข้มข้นกับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคกันอีกครั้ง

สำหรับในไทย นับจากการระบาดในประเทศครั้งแรก และถือเป็นครั้งเดียวเมื่อปี 2547 ครั้งนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ผนึกกำลังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ทำให้ไทยสามารถป้องกันการระบาดของโรคนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม กระทั่งไม่พบการติดเชื้อนี้ในคนตั้งแต่ปี 2549

ที่สำคัญ ไทยยังคงสถานะ "ประเทศปลอดโรคไข้หวัดนก" ตามรายงานของ OIE นับจากปี 2551 จนถึงปัจจุบัน

ครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน สั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์เฝ้าติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารโรคระบาดไข้หวัดนกใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน อาจส่งผลต่อสุขภาพสัตว์ปีก ทำให้สัตว์อ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย จึงต้องดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคระบาดในสัตว์ปีกแบบปูพรมทั่วไทย พร้อมป้องกันให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ ต้องบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกเข้า-ออกตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้โรคนี้เข้ามาทำลายอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของประเทศได้


เรื่องนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์ น.สพ.สรวิศ ธานีโต รับลูกทันที โดยได้สั่งการให้ปศุสัตว์ทั้ง 77 จังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้เข้มงวดในการป้องกันโรค พร้อมทั้งกำชับให้สำรวจ เฝ้าระวังเชิงรุก เพื่อคุมเข้มและป้องกันไข้หวัดนกสายพันธุ์ Highly pathogenic avian influenza (H5N6) ซึ่งเป็นไวรัสที่ร้ายแรง ที่ส่งผลกระทบต่อฟาร์มจากญี่ปุ่นทำลายไก่ไปแล้วกว่า 20 ล้านตัวนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา จนพบการระบาดในอินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับ 6 ของโลก รวมถึงการระบาดในเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้

ที่สำคัญหวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H5N8 มีฝูงนกป่าเป็นพาหะนำโรค ทำให้ประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางการบินมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ ไทยก็ยิ่งต้องยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้โรคนี้ลามเข้ามาได้ ช่วยสร้างความมั่นใจด้านอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค

การทำงานเชิงรุกทั้งหมดยังดำเนินการควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน หากเกิดกรณีพบเห็นการลักลอบเคลื่อนย้าย หรือพบสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตายผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถแจ้งเบาะแสแก่อาสาปศุสัตว์ ปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์จังหวัด หรือแจ้งผ่าน Application "DLD 4.0" เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และเฝ้าระวังควบคุมโรคตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างทันท่วงที

ขณะเดียวกัน กรมปศุสัตว์ยังขอความร่วมมือทุกจังหวัดเข้มงวดมาตรการป้องกันต่างๆ ในภาคส่วนการผลิตสัตว์ปีกอย่างเต็มที่ โดยมีสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเป็นโต้โผใหญ่ในการเฝ้าระวังโรคทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ผ่านความร่วมมือของเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคในทุกพื้นที่ และรายงานสถานการณ์สัตว์ปีกป่วยตายทุกวัน หากเข้าเกณฑ์ของโรคไข้หวัดนกต้องเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคทันที นอกจากนี้ต้องมีการตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้ลี้ยงสัตว์ปีกทุกราย โดยสอบถามอาการสัตว์ปีกแบบเคาะประตูบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนกอพยพ และนกรรรมชาติอาศัยอยู่

ที่สำคัญ แนวคิดที่ว่า "การป้องกันคือวิธีที่ดีที่สุด" ยังคงใช้ได้เสมอ ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกผสมต้องเน้นระบบฟาร์มมาตรฐาน และการป้องกันโรคในฟาร์ม (Farm Biosecurity) ด้วยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ ที่จะช่วยป้องกันและลดโอกาสในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ฟาร์มหรือโรงเรือน และสถานที่เลี้ยงสัตว์ เน้นการฆ่าเชื้อโรคตามมาตรฐาน ห้ามบุคคลภายนอกไม่ให้เข้าฟาร์มเด็ดขาด รวมทั้งต้องป้องกันสัตว์พาหะทั้ง นก หนู สุนัข แมว ฯลฯ ไม่ให้มีในพื้นที่เลี้ยง

วันนี้ผู้เลี้ยงทุกคน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวังและช่วยกันดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นหัวใจของการป้องกันที่ดีเยี่ยม ไม่เพียงโรคไข้หวัดนกเท่านั้น ยังเป็นปราการสำคัญในการป้องกันโรคสัตว์ปีกอื่นๆ ได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอาหารปลอดภัยอย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น