ในช่วงปีที่ทุกคนต้องเผชิญกับ Covid-19 การทำงานและการใช้ชีวิตในแต่ละวันต้องถูกปรับเปลี่ยนอย่างมาก การทำธุรกิจต้องหยุดชะงัก อีเวนต์ใหญ่ๆ ต้องเลื่อนออกไป และยังมีเรื่องกำลังซื้อที่ลดลง ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจกันยกใหญ่ ทุกคนอยู่ใน Survival Mode ท่ามกลางความท้าทายที่ต้องเผชิญ Influencer Marketing ได้เข้ามามีบทบาทกับทุกธุรกิจ เป็นคีย์สำคัญใน Marketing Mix ที่เติบโตขึ้นทุกปี
คุณสุทธิชัย รัตนวิไลวรรณ ผู้บริหาร Motive Influence ได้เผยมุมมองเกี่ยวกับ Influencer Marketing ในปี 2020 ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกคนและทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทั้งสิ้น ผู้บริโภคลดการใช้เงิน แบรนด์ต้องรัดเข็มขัดให้มากที่สุด ทำให้ทุกการใช้จ่ายมีความคาดหวัง จากเดิมที่ใช้ Influencer Marketing เพื่อสร้าง Awareness ก็เริ่มหวังยอดขายมากขึ้น แม้แบรนด์จะลดการใช้สื่อออฟไลน์ ในขณะเดียวกันก็ยังทำ Influencer Marketing อย่างต่อเนื่อง
กว่าจะมาถึงวันนี้ Influencer Marketing ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ในอดีตที่ยังไม่มีการว่าจ้าง Influencer มีจุดเริ่มต้นจากการใช้แล้วชอบ จึงแชร์ความคิดให้คนอื่นๆ รู้ หรือมีความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วศึกษาจนเป็นกูรู ก็อยากถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ไปยังกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน
Influencer Marketing ปี 2021 กลับสู่โหมดดั้งเดิม เน้นการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติ
ปัจจุบัน Influencer Marketing เป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในปี 2020 ที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว เรียนรู้การทำตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น สำหรับปี 2021 การทำตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะกลับไปสู่โหมดเดิมมากขึ้น นั่นคือ ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสนใจตรงกับแบรนด์จริงๆ และสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ
ปัจจุบันเม็ดเงินการใช้ Influencer ระดับท็อปสูงถึง 70-80% ของงบการใช้อินฟลูเอนเซอร์ทั้งหมด ทว่าในปี 2021 Micro Influencer จะมีความสำคัญกว่าที่ผ่านมาและครองสัดส่วนการใช้งบมากขึ้นด้วย แบรนด์มีจุดประสงค์การทำ Influencer Marketing ที่ชัดเจนขึ้น เข้าใจว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละกลุ่มมีบทบาทต่างกัน เช่น ใช้ Macro Influencer เพื่อสร้าง Awaerness และใช้ Micro Influencer เพื่อสร้าง Engagement และกระตุ้นยอดขาย
ในส่วนของแนวทางการทำคอนเทนต์ ในปี 2021 ผู้บริโภคต้องการความจริงใจสูง เปิดใจยอมรับได้ว่า Influencer ต้องมีสปอนเซอร์ ถ้าทาง Influencer เปิดเผย ผู้ติดตามก็ยินดีรับฟัง เป็นความสัมพันธ์อย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
Motive Influence มุ่งมั่นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ทุกฝ่าย
ตลอดปี 2020 ทุกแคมเปญที่เข้ามาล้วนมีความท้าทายสูง เราไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์ของลูกค้า แต่เราให้ความสำคัญต่อ Member และทีมงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะอยากให้ทุกแคมเปญเป็นไปตามแผนที่วางไว้ บางครั้งอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลา สถานที่ และเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งท้าทายให้ทีมงานต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เรามุ่งมั่นที่จะเป็นสื่อกลางในการบริหารจัดการแคมเปญ Influencer Marketing เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ยกตัวอย่าง แบรนด์เสื้อผ้า Superdry ที่ต้องการร่วมงานกับ Micro Influencer สายสตรีทแฟชั่นจำนวน 100 คนเพื่อโปรโมตเสื้อผ้า ความท้าทายสำหรับแคมเปญนี้อยู่ที่การหา Micro Influencer จำนวนมาก และมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจน โดยอินฟลูเอนเซอร์ต้องเดินทางไปหน้าร้าน ณ ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องเวลา ความปลอดภัย และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถกำหนดแผนการทำงานที่แน่นอนได้ บวกกับเรื่องข้อจำกัดในการเดินทางของอินฟลูฯ แต่ละคน จึงเป็นแคมเปญที่ท้าทายทีมงาน Motive Influence อย่างมาก แต่ก็สำเร็จไปได้ดีด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน
แบรนด์เล็กขอลงสนาม Influencer Marketing บ้าง
คุณสุทธิชัยเล่าว่า ที่ผ่านมาเรามักเห็นแบรนด์ใหญ่ๆ ใช้ Influencer Marketing อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมี Covid-19 เข้ามาส่งผลให้แบรนด์ต้องปรับตัวและหันมาทำตลาดออนไลน์ ปีนี้เราได้เห็นแบรนด์ขนาดเล็กหรือ SMEs กล้าใช้ Influencer Marketing มากขึ้น บ่อยครั้งที่ติดต่อเข้ามาเราจะช่วยดูให้ก่อนว่าโปรดักต์ของคุณพร้อมหรือเหมาะที่จะใช้หรือเปล่า เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์ที่ดีอย่างแท้จริง
ผลลัพธ์ที่ดี เกิดจากจุดเริ่มต้นที่ดี
หลายคนมองว่า Influencer เป็นสื่อประเภทหนึ่ง ในความเป็นจริงการบริหารจัดการ Influencer ที่เป็นมนุษย์นั้นแตกต่างกับการบริหาร Media เป็นอย่างมาก การซื้อ Online Media ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่สามารถกำหนดราคาคลิก และ Engagement ได้ ซึ่งหากใช้วิธีนี้วัดผล Influencer คุณอาจจะได้ตัวเลขที่คุณต้องการเสมือนกับว่าแคมเปญนี้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เมื่อพลิกดูเบื้องหลัง ตัวเลข Engagement ที่เกิดขึ้นในคอนเทนต์นั้นๆ อาจมาจากการใช้ Bots หรือ Pods ก็ได้ ซึ่ง Bots หรือ Pods เหล่านั้นจะกดไลก์ หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อปั่นยอด Engagement แม้ตัวเลขจะดูดี แต่ไม่ได้ผลลัพธ์จริงตามที่ Brand ต้องการ
ในฐานะที่ Motive Influence เป็นผู้ให้บริการด้าน Influencer Marketing ที่เน้นย้ำเรื่องคุณภาพมาตลอด เราจึงพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อทำงานร่วมกับทีมงานที่มีประสบการณ์สูงกว่า 10 ปี เพื่อวิเคราะห์คุณภาพของ Influencer และ Follower ให้ดียิ่งขึ้น โดยให้ค่าความเสี่ยง Fraud Risk Score เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ Fake Follower และ Fake Engagement และคัดเลือก Influencer ที่มีความเข้ากันได้กับ Brands อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยงาม แต่ยังสร้างผลลัพธ์ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ตั้งไว้จริงๆ
ดังนั้น การที่แบรนด์จะเลือกใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing ควรให้ความสำคัญต่อตัว Influence เสียก่อน เช็กให้แน่ใจว่าผู้ติดตามเหล่านี้มีตัวตนจริง และมีความเข้ากันได้กับแบรนด์ที่จะนำเสนอหรือจะเข้ามาปรึกษา Motive Influence ก็ได้ เพราะเรามองว่าผลลัพธ์ที่ดีเกิดขึ้นได้จากการมีจุดเริ่มต้นที่ดี
การวัดผลด้วยตัวเลขไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป
แบรนด์มักวัดผลการทำงานของ Influence ด้วยตัวเลข Reach, Impression หรือ Engagement อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จริงๆ แล้วการวัดว่า Influencer ได้ผลดีหรือไม่ดี ตัวเลขไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป เช่น การเอาเรื่องยอด Follower มาเป็นเกณฑ์ตั้งต้น หากอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นมีผู้ติดตามไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็อาจต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวเลข Follower ที่แบรนด์ต้องการ เช่น การซื้อ Follower ปลอม แน่นอนว่ามีตัวเลขผู้ติตตามถึง แต่ก็ไม่ใช่คนหรือกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของแบรนด์ และเมื่อปล่อยคอนเทนต์ออกไป ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
นักการตลาดจึงต้องหาวิธีอื่นในการวัดผล เช่น Conversion ที่มีความหมายต่อการทำธุรกิจมากกว่า อย่างการให้ Code ส่วนลดแก่อินฟลูเอนเซอร์ โดยระบุว่าหาก Follower สนใจสินค้าให้เข้าไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์ แล้วใช้ Code เพื่อรับส่วนลดพิเศษ ซึ่งวิธีนี้จำเป็นต้องมี Code หลายอันสำหรับอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนเพื่อการวัดผลที่ชัดเจน และรู้ว่าลูกค้าได้ส่วนลดดังกล่าวมาจากใคร แบรนด์สามารถวิเคราะห์ต่อได้ว่าอินฟลูเอนเซอร์คนไหนเวิร์กหรือไม่เวิร์ก
นอกจากนี้ การวัดผลด้วย Engagement ก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในทำนองเดียวกันกับการวัดผลด้วย Follower
Technology สร้างผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด
แม้จะมีประสบการณ์ในวงการ Influencer Marketing มากว่า 10 ปี Motive Influence ยังเดินหน้าพัฒนาระบบ AI อยู่ตลอด ทำงานเก่งขึ้น รู้ว่าผู้ติตามของ Influencer มี Fake Follower เท่าไร สามารถวิเคราะห์ข้อความในคอมเมนต์ได้ เพื่อประเมินว่ามี Fraud Risk Score ในระดับใด เรียกได้ว่าเราหา Influencer ได้ตรงที่สุด และในอนาคตเรามีแผนเปิดตัว Apps ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้ทั้งฝั่ง Influencer และแบรนด์ เพื่อให้การทำงานร่วมกันราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ก้าวต่อไปของ Motive Influence ปี 2021
ที่ผ่านมาคนมองว่า Influencer เป็นสื่อที่ซื้อได้เหมือนกับสื่ออื่นๆ เราอยากชวนให้ทุกคนมองว่า Influencer เป็นคนธรรมดาทั่วไปเหมือนเรา ในปี 2021 เราอยากเห็นคนใช้ใน Influencer ในรูปแบบ Original มากขึ้น มีความชัดเจนในแง่วัตถุประสงค์ เช่น Macro Influencer เพื่อสร้าง Mass Awareness หรือใช้ Micro Influencer ในเซกเมนต์ที่ตัวเองถนัดเพื่อให้เกิด Micro Engagement ที่ดีและเป็นธรรมชาติ
เรามี Member ในเครือข่ายที่มีคุณภาพและใหญ่ที่สุด เนื่องจากกระบวนการคัดกรองคนเข้ามามีหลายขั้นตอน ต้องดูอย่างละเอียด ณ วันนี้เรามี Member ในระบบกว่า 10,000 คน เราการันตีได้เลยว่าทั้ง 10,000 คนนี้เป็นคนที่มีคุณภาพจริงๆ
Motive Influence เป็นรายเดียวในตลาดที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดกรองคนภายใต้ความเชื่อที่ว่า “เมื่อได้คนที่ดี ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมา”
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ https://www.motiveinfluence.com/contact-us/