ผู้จัดการรายวัน 360 - ซีพีเอ็นซุ่มรีแบรนด์ครั้งใหญ่ ใช้ชื่อเดียวคือ เซ็นทรัล ตามด้วยสถานที่ ไม่มีต่อท้ายพลาซาหรือเฟสติวัลป้องกันการสับสน พร้อมลงทุนต่อเนื่องไม่หวั่นโควิด ด้วยงบ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี ปีนี้เปิดอีก 2 สาขาใหม่ อัดงบตลาดเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทในไตรมาสแรกจากเดิมตั้งไว้ที่ 80 ล้านบาท
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่องด้วยงบลงทุนรวมเฉลี่ยที่ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปีเหมือนกับที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ก็ตาม แต่มองว่าสถานการณ์ปี 2564 น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องมาจากการมีวัคซีนที่จะเริ่มใช้ในเดือนกุมกาพันธ์ อีกทั้งการปรับตัวของคนไทยในการใช้ชีวิตที่ผ่านมา
ปีนี้จะมีการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลใหม่อีก 2 สาขา คือที่เซ็นทรัลศรีราชา เดือนตุลาคม และเซ็นทรัลอยุธยา เดือนพฤศจิกายน และจะมีการรีโนเวตใหญ่เซ็นทรัลพระรามสองด้วย ขณะที่ในปีหน้าจะมีการเปิดสาขาใหม่อีกที่เซ็นทรัลจันทบุรี
นอกจากนั้น ในปีนี้มีแผนที่จะทำการรีแบรนด์และปรับภาพลักษณ์ใหม่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลใหม่และจะเปิดตัวเป็นทางการในเดือนมีนาคมนี้ โดยทุกศูนย์จะใช้ชื่อ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เพียงชื่อเดียวเหมือนกันหมดแล้วตามด้วยสถานที่ที่ตั้งนั้น จะไม่มีคำต่อท้ายเป็นประเภท เช่น พลาซา หรือเฟสติวัล หรืออื่นๆ เหมือนที่ผ่านมาอีก เพื่อลดความสับสนของลูกค้าที่มีหลายชื่อ ซึ่งได้เริ่มเปลี่ยนบ้างแล้ว เช่น เซ็นทรัลสมุย ส่วนเซ็นทรัลเวิลด์จะยังคงใช้ชื่อเดิม คือ เซ็นทรัลเวิลด์
ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวด้วยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์รอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณลูกค้าหรือทราฟฟิกกลับเข้าศูนย์ฯ เริ่มดีขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับบางสาขาด้วย แต่โดยรวมแล้วอยู่ที่ 60-75% เช่น สาขาที่อยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยง คือ ศาลายา, อุบลราชธานี, นครศรีธรรมราช, หาดใหญ่ และเชียงราย เป็นต้น ที่ปริมาณทราฟฟิกลูกค้าอยู่ที่ 75% ส่วนสาขาที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวก็ยังน้อยอยู่ ส่วนเซ็นทรัลเวิลด์ก็มีประมาณ 50% เซ็นทรัลวิลเลจประมาณ 48%
การระบาดรอบใหม่ของโควิดตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาทำให้ต้องเข้มงวดกันมากขึ้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรจึงจะจบ แต่ว่าเราต้องอยู่กับโควิดอีกนาน ตอนนี้ต้องมาดูแผนธุรกิจแผนตลาดกันเดือนต่อเดือน ไม่สามารถวางแผนยาวได้ ส่วนการที่รัฐบาลล็อกดาวน์เป็นบางพื้นที่และเริ่มปลดล็อกในรอบใหม่นี้ ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีในการแก้ไขเรื่องโควิด อีกทั้งทำให้เศรษฐกิจไม่ชะงักไปทั้งหมดเหมือนในรอบแรกที่ล็อกดาวน์ทั้งหมด ส่วนผู้ค้า ร้านค้าต่างๆ ในศูนย์ฯ ของเรา เราก็ยังให้ความช่วยเหลือไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มงบการตลาดรวมเป็น 200 ล้านบาท จากเดิมก่อนที่จะคลายล็อกดาวน์ 13 ธุรกิจล่าสุด อย่างเช่น ฟิตเนส โรงเรียนกวดวิชา สปา ต่างๆ ตั้งงบไว้ที่ 80 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการจับจ่ายในภาพรวม แต่ยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนที่จะมีโควิด-19 ที่ใช้ 300 ล้านบาท
งานแรกปีนี้คือตรุษจีน โดยเริ่มจากจัดงานเทศกาลตรุษจีน จำหน่ายชุดไหว้ เสื้อผ้าตรุษจีน รวมทั้งโปรโมชันลดราคาสินค้าสูงสุด 70% สำหรับสินค้าปกติ ลด 30% สินค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและดึงดูดให้ลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.-21 ก.พ. 64 ตั้งเป้าหมายมีจำนวนผู้เข้ามาเดินห้างเพิ่มขึ้น 15-20%