ปลัดกระทรวงพลังงานสั่งตรวจสอบย้อนหลังโครงการโซลาร์เซลล์พื้นที่ห่างไกลทุกพื้นที่ ย้ำโครงการใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์ฯ จะต้องมีแผนที่ชัดเจน โปร่งใส สามารถดำเนินการเกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2564 (ครั้งที่ 2) ว่า ตามที่มีกระแสข่าวโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่ดำเนินโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ห่างไกล หลายแห่งไม่สามารถดำเนินการได้จริงนั้น ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามกับหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ เร่งดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังในทุกพื้นที่ ทุกโครงการที่ได้รับงบประมาณสนับสนุน เพื่อเร่งหาสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากปัญหาใด หรือมีข้อจำกัดในการดำเนินงานอย่างไร และสาเหตุใดที่บางโครงการไม่สามารถใช้งานได้จริงเกิดจากอะไร
ทั้งนี้ เบื้องต้นบางพื้นที่ได้จัดส่งรายงานข้อมูลเข้ามาบ้างแล้ว และได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบ และประเมินผลลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามในทันทีเพื่อให้สามารถหาแนวทางแก้ไขให้ทุกโครงการสามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยเร็วที่สุด
“การประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ล่าสุดผมได้เน้นย้ำว่าจะต้องเร่งหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และดำเนินการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด เพราะเป้าหมายของงบกองทุนฯ คือสนับสนุนโครงการและจะต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ซึ่งจะเร่งให้มีความชัดเจนโดยเร็วที่สุด ส่วนโครงการใหม่ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนได้เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกโครงการอย่างเข้มงวดเช่นกัน เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ มีการจ้างงาน สร้างอาชีพในพื้นที่” นายกุลิศกล่าว
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้เห็นชอบร่วมกันว่าทุกโครงการที่ขอรับงบประมาณสนับสนุนจะต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ตอบสนองความต้องการของชุมชน และเป็นโครงการที่ชาวบ้านได้รับประโยชน์เต็มที่ มีราคากลางที่ตรวจสอบได้ รวมถึงจะต้องมีความโปร่งใสในการอนุมัติโครงการโดยไม่ยึดติดกับหน่วยงานใด ที่สำคัญจะต้องมีระบบการตรวจสอบที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับโครงการเศรษฐกิจฐานราก ที่จะกระจายเงินให้จังหวัดทั่วประเทศ จะพิจารณาให้ความสำคัญในด้านความพร้อม การพัฒนา และการซ่อมแซมบำรุงรักษา เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและให้มีการรายงานผลต่อจังหวัดทุกปีจนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน