กลุ่มทรู คว้าลิขสิทธิ์รายการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ 3 ทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ภายใต้โมเดลใหม่ในการจัดการแข่งขันกีฬาในยุคโควิดระบาด
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มทรู ได้นำการถ่ายทอดกีฬาชั้นนำระดับโลก มาให้ลูกค้าได้รับชมกันต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในปี 2564 ได้คว้าลิขสิทธิ์แบดมินตันรายการยิ่งใหญ่ระดับโลก มาให้ชมถึง 3 ทัวร์นาเมนต์แบบเอ็กคลูซีฟในทุกช่องทางของทรู ประกอบด้วย รายการแรก "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" วันที่ 12-17 ม.ค. ต่อด้วยรายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" วันที่ 19-24 ม.ค. และปิดท้ายด้วยรายการ "เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020” วันที่ 27-31 ม.ค.
โดยช่องทางการถ่ายทอดสดมีดังนี้ 1.ทางเคเบิลทีวีทรูวิชั่นส์ รับชมทุกคู่ที่ทำการถ่ายทอดสดได้ทางช่องทรูสปอร์ต เอชดี 2 (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 667), ช่องทรูสปอร์ต เอชดี 3 (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 668), ทรูสปอร์ต 7 (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 686) 2.ทางฟรีทีวีโดยทรูโฟร์ยูช่อง 24 ถ่ายทอดสดอย่างน้อย 3 คู่ต่อวัน (โดยเฉพาะคู่ที่นักกีฬาชาวไทยร่วมลงแข่ง) 3.ทรูไอดีแอป และกล่องทรูไอดีทีวี พร้อมติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสาร อีกทั้งไฮไลท์ประจำวันได้ทาง TNN 16 และสามารถติดตามตารางการแข่งขัน ไฮไลท์แบบเรียลไทม์ ได้ทางเฟสบุ๊คและเวปไซต์ TrueVisions
“กลุ่มทรู บรรลุข้อตกลงในการได้ลิขสิทธิ์จากสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยและสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ในการถ่ายทอดสดทุกแพลตฟอร์ม หลังจากเกิดปัญหาการระบาดของโควิด-19 โดยการกลับมาถ่ายทอดสดกีฬาในครั้งนี้ ทางสมาคมฯให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ มีมาตรการเข้มข้นทุกขั้นตอน เช่น การให้นักกีฬามาถึงก่อนการแข่งขัน 7 วัน ซึ่งนักกีฬาแต่ละประเทศ เดินทางด้วยรถบัสเพียง 1 คัน นักกีฬาพักห้องละ 1 คน และรับประทานอาหารในห้องเพียงคนเดียว ถือเป็นแนวทางหรือโมเดลใหม่ในการจัดการแข่งขันกีฬาในยุคโควิดระบาด”
นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังได้สนับสนุนซิมเน็ตพร้อมใช้ จาก ทรูมูฟ เอช จำนวน 500 ซิม พร้อมแพ็กเกจเน็ตความเร็ว 10 Mbps. ไม่อั้น โทรในเครือข่ายฟรี นาน 30 วัน รวมมูลค่า 170,000 บาท ให้แก่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อแจกจ่ายให้กับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และทีมงานถ่ายทอดสด
อย่างไรก็ตามกลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการ 26,500 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2563 หรือตลอด9เดือนในปี2563 มีรายได้รวมที่ 79,700ล้านบาท โตขึ้น4% แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลงรวมทั้งรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยว
โดยในส่วนของทรูวิชั่นส์ พบว่ามีรายได้จากการให้บริการ9เดือนของปี2563 อยู่ที่ 7,900ล้านบาท และเฉพาะในไตรมาสสามทำรายได้อยู่ที่2,600 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการให้บริการการบอกรับเป็นสมาชิกปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสสามหลังจากผลกระทบทางธุรกิจจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มทรงตัว ขณะที่แพ็กเกจพรีเมียมกลับมาเติบโตและมีแนวโน้มเชิงบวกตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ 4 ล้านรายในไตรมาสสามที่ผ่านมา.