รฟท.เปิดร่างทีโออาร์โครงการรถไฟ 2 สายใหม่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” และ “บ้านไผ่-นครพนม” วงเงินรวมกว่า 1.28 แสนล้าน เปิดรับฟังคำวิจารณ์มี 5 สัญญา คาดได้ตัวผู้รับจ้างในปี 64 ใช้เวลาก่อสร้าง 42 เดือน - 72 เดือน
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.ได้ประกาศร่างขอบเขตของงาน (TOR) และราคากลาง ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 72,920 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยเปิดรับฟังคำวิจารณ์ ครั้งที่ 1 วันที่ 21 ธ.ค. 63 สิ้นสุดรับฟังคำวิจารณ์ วันที่ 25 ธ.ค. 2563 โดยแบ่งเป็น 3 สัญญา
ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599.28 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ระยะทางประมาณ 7 กม. พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง
ทั้งนี้ รฟท.จะดำเนินการสำรวจและเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ และทยอยส่งมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างภายในเวลา 24 เดือนนับแต่วันที่ผู้รับจ้างได้รับแจ้งให้เริ่มทำงานจาก รฟท. โดยมีระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน (6 ปี)
โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 3,989 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 403 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913.78 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้าง อุโมงค์รถไฟ ระยะทางประมาณ 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ(Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 72 เดือน
โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 4,037 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 182 ล้านบาท
สัญญา 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406.43 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ และงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟระยะทางประมาณ 3 กม. งานก่อสร้างสถานี ทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง
พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 72 เดือน
ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกวา 2,910 ล้านบาท มีผลงานก่อสร้างอุโมงค์ในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 163 ล้านบาท
สายสายบ้านไผ่-นครพนม แบ่ง 2 สัญญา วงเงินรวม 5.54 หมื่นล.
โครงการก่อทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. จำนวน 2 สัญญา วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยเปิดรับฟังคำวิจารณ์ วันที่ 25 ธ.ค. 63 สิ้นสุดรับฟังคำวิจารณ์ วันที่ 30 ธ.ค. 2563
ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กม. ราคากลาง 27,123.62 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ ก่อสร้างสถานี และ Stabling Yard ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 48 เดือน (4 ปี) โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ สัญญาเดียวมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,068 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง175 กม. ราคากลาง 28,333.93 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ เป็นคันทางระดับดินและทางรถไฟยกระดับ ก่อสร้างสถานี และ Stabling Yard ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Overpass) ถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และก่อสร้างรั้วสองข้างตลอดแนวเส้นทาง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง ระยะเวลาก่อสร้าง ไม่เกิน 48 เดือน (4 ปี) โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ สัญญาเดียวมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,250 ล้านบาท
สำหรับเงื่อนไขใน TOR ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เช่น มีความสามารถตามกฎหมาย ไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา กรณีเป็นกิจการร่วมค้าต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยเป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) และสมชิกที่ร่วมกันจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันมากกว่า 50% โดย Lead Firm ต้องมีสัดส่วนมากที่สุด
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณา 1. ข้อเสนอคุณสมบัติ รายใดคุณสมบัติไม่ถูกต้องจะไม่ได้รับการพิจารณาซองด้านเทคนิค 2. ข้อเสนอทางเทคนิค มี 6 ข้อ รวม 100 คะแนน โดยจะต้องได้คะแนนแต่ละหัวข้อไม่ต่ำกว่า 60% โดยรวมทุกหัวข้อแล้งจะต้องไม่น้อยกว่า 75% จึงจะได้รับการพิจารณาข้อเสนอราคา 3. ข้อเสนอด้านราคา
โดยในการทำสัญญากับผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องวางหลักประกันสัญญาจำนวน 5% ของราคาค่าจ้างที่ประมูลได้ คาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างภายในปี 2564
ทั้งนี้ รฟท.จะดำเนินการสำรวจและเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ และทยอยส่งมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างภายในเวลา 24 เดือน นับแต่วันที่ผู้รับจ้างได้รับแจ้งให้เริ่มทำงานจาก รฟท.