xs
xsm
sm
md
lg

เช็กอิน! “วังจันทร์วัลเลย์” เมืองแห่งนวัตกรรมสุดล้ำในทุกมิติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทำความรู้จัก “วังจันทร์วัลเลย์” เมืองอัจฉริยะในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform ที่เพียบพร้อมครบครันทั้งด้านนวัตกรรม การศึกษาพัฒนาคน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ Investor ในทุกมิติ


ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้นทุกวัน สำหรับพื้นที่ “วังจันทร์วัลเลย์” 3,454 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ด้วยความมุ่งหวังจะให้เป็นฐานที่มั่นของเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการค้นคว้าวิจัย พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมให้แก่ทุกภาคส่วนของประเทศ และรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

“วังจันทร์วัลเลย์” ซึ่งพัฒนามาขึ้นในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform นั้นประกอบด้วย 3 โซนสำคัญ ได้แก่ พื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone) พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) และพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone) ได้รับการประกาศเป็น “เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ” จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจและสังคม

Ibusiness ชวนไปเช็กอิน เปิดประตูสู่วังจันทร์วัลเลย์ Smart City ที่จะเป็นอีกกำลังสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน...

สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC)
ต้นแบบสถาบันพัฒนาคน
ศูนย์รวมนักวิจัยระดับหัวกะทิ


เพราะเศรษฐกิจจะสามารถขับเคลื่อนพัฒนาและเติบโตได้หรือไม่อย่างไรนั้น ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งก็คือเรื่องของ “การศึกษา” และพัฒนา “คน” ให้มีศักยภาพความรู้ความเชี่ยวชาญ และนั่นก็คือหนึ่งในหัวใจหลักของวังจันทร์วัลเลย์ที่ได้มีการจัดสรรพัฒนาพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้การวิจัย การสร้างนวัตกรรม ตลอดจนการสร้างความร่วมมือทางด้านงานวิจัยในพื้นที่ โดยมีพื้นที่ที่พัฒนาจนสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว ได้แก่ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS)

“สถาบันวิทยสิริเมธี” หรือ VISTEC คือแหล่งผลิตบุคลากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับหัวกะทิอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครับ รวมทั้งการได้ลงมือปฏิบัติจริง มีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้และนักศึกษาก็สามารถทำวิจัยร่วมกับคณาจารย์เหล่านั้นได้ เพื่อพัฒนานวัตกรรม ผลงานวิจัย สร้างองค์ความรู้ใหม่และใช้องค์ความรู้นั้น ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป


ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ หรือ KVIS เปรียบเสมือนแสงแห่งความหวังในโลกอนาคต เพราะเป็นสถานศึกษาบ่มเพาะนักเรียนชั้นมัธยมปลายซึ่งมีความเป็นเลิศด้านวิทย์คณิตที่ผ่านการเฟ้นหาและสอบคัดเลือกมาอย่างเข้มข้น พร้อมที่จะเติบโตไปเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักผลิตนวัตกรรมชั้นนำของประเทศต่อไปในอนาคต ผ่านการเรียนรู้การทำวิจัยและทดลองกับของจริง ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและเทคโนโลยีสารสนเทศที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์

ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
นอกจากนั้นแล้ว ในบริเวณEducation Zone ยังเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัตสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา” ซึ่งเป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ให้แก่นักเรียนและผู้สนใจทั่วไป โดยล่าสุด ปตท. ได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) สนับสนุนการทำเกษตรที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในระบบการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและอาหารปลอดภัย ถ่ายทอดสู่ชุมชนประชาชนทั่วไป พร้อมสนับสนุนการเรียนการสอนสาขาวิชาเกษตรนวัตโรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา

ทั้งนี้ พื้นที่โซนดังกล่าว นอกจากจะได้รับการพัฒนาเป็นสถาบันอุดมศึกษาและโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) แล้ว ยังมีการใช้พื้นที่ที่เหลืออยู่ รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงอื่น ๆ ในบริเวณที่ต่อเนื่องกับเขาขุนอินทร์ โดยการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์” เพื่อเป็นสถานที่ในการรวบรวมองค์ความรู้ พัฒนางานวิจัยด้านการปลูกและจัดการป่าไม้ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมากว่า20 ปี แสดงถึงรูปแบบการพัฒนาที่ดินและพื้นที่สีเขียวร่วมกันอย่างกลมกลืน

ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์
กล่าวได้ว่า พื้นที่ตรงบริเวณนี้ นอกจากจะเป็น “สมอง” สำหรับการเรียนรู้ ซึ่งรวบรวมองค์ความรู้ พัฒนางานวิจัยด้านการปลูกและจัดการป่าไม้ ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บเกี่ยวความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ป่าหลากหลายชนิดที่มีการจัดแสดงแปลงปลูกป่าหลากหลายลักษณะ เช่น ป่าธรรมชาติ ไม้ป่าเศรษฐกิจ ไม้ผลธรรมชาติ รูปแบบวนเกษตร เป็นต้น ยังเป็นพื้นที่สีเขียวให้ “ปอด” ได้สูดอากาศสะอาดบริสุทธิ์ เติมความสดชื่นสดใส ให้กับผู้อยู่อาศัย หรือแม้แต่จะเพียงแค่ไปพักผ่อนหย่อนใจในป่าวังจันทร์ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ก็จะได้รับความผ่อนคลายสบายใจเช่นกัน

Innovation Zone
Intelligence Operating Center
หัวใจสำคัญของเมืองอัจฉริยะ


แน่นอนว่า เมื่อโครงการวังจันทร์วัลเลย์ได้รับการพัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิด Smart City หรือ “เมืองอัจฉริยะ” จึงปฏิเสธไม่ได้ที่เราจะได้เห็นอะไร “ล้ำ ๆ” ละลานตาไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone)

ณ พื้นที่โซนนี้ มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาเป็นศูนย์ ศูนย์วิจัย พัฒนา และนวัตกรรม หรือ Smart Innovation Platform เพื่อยกระดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด โดยออกแบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการไว้อย่างครบวงจร

Intelligent Operation Center : IOC
เพราะเมืองอัจฉริยะ ก็ต้องดูแลบริหารจัดการด้วยระบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นการมีศูนย์ข้อมูล (Data Center) ส่วนกลาง และ อาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operation Center : IOC) ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของวังจันทร์วัลเลย์

โดยศูนย์ IOC มีการวางโครงข่ายเชื่อมโยงกับระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ทั่วทั้งวังจันทร์วัลเลย์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบสาธารณูปโภค, ระบบดูแลการจัดการพลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบเครือข่าย เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ต่อยอดในเชิงธุรกิจ เรียกว่าทั้งผู้อยู่อาศัยและนักลงทุน สามารถเชื่อมั่นและวางใจเมื่ออยู่ใน Smart City แห่งนี้


อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากที่กล่าวมาทั้งหมด ล่าสุด ปตท. ร่วมกับพันธมิตร ได้เปิดพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ เพื่อรองรับ 5G Play Ground และ UAV Regulatory Sandbox ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และเทคโนโลยี 5G ให้พร้อมสำหรับการทดลอง ทดสอบ นวัตกรรมต่าง ๆ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ให้รองรับ UAV (Unmanned Areial Vehicle) Regulatory Sandbox หรือการทดลอง ทดสอบ โดรน และระบบที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้สนใจทุกภาคส่วน โดยพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมต่าง ๆ

สุดท้ายแล้ว ต้องยอมรับว่า พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Smart City ที่มีครบในทุกมิติ ในรูปแบบ Smart Natural Innovation Platform ทั้งเรื่องการพัฒนาการศึกษา พัฒนาคน การส่งเสริมสร้างสรรค์นวัตกรรม ตลอดจนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดล้วนตอบโจทย์ชีวิตรูปแบบใหม่ในเมืองอัจฉริยะที่พร้อมจะรองรับการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน และเป็นฐานที่มั่นของการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่เมื่อเห็นถึงความพร้อมในด้านต่าง ๆ ก็จะมีความเชื่อมั่นในการลงหลักปักฐานธุรกิจใน Smart City แห่งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น