xs
xsm
sm
md
lg

เซ็นทรัลเวิลด์ ชู The Biggest Food Destination ศูนย์การค้าที่รวมร้านอาหารมากที่สุดในเอเชีย เปิดตัวคอนเซ็ปต์ endless discovery wOrld of food มอบประสบการณ์ความอร่อยไม่มีที่สิ้นสุด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เซ็นทรัลเวิลด์ ชู The Biggest Food Destination ศูนย์การค้าที่รวมร้านอาหารมากที่สุดในเอเชีย สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เปิดตัวคอนเซ็ปต์ endless discovery wOrld of food มอบประสบการณ์ความอร่อยไม่มีที่สิ้นสุด อร่อยได้ทั้งปีไม่มีซ้ำ



เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นำโดย ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมสร้างปรากฏการณ์โลกแห่งอาหารครั้งยิ่งใหญ่ เปิดตัวคอนเซ็ปต์ “centralwOrld endless discovery wOrld of food” ชู The Biggest Food destination ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังทุกรูปแบบไว้มากที่สุดในโลกถึง 215 ร้านมากกว่า 10 สัญชาติทั่วโลกไว้ในศูนย์การค้า มอบประสบการณ์ความอร่อยไม่สิ้นสุด ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสดคุณภาพดี, ร้านอาหารทุกสไตล์, Street Foods, Café society ที่มี café มากที่สุด ไปจนถึงสถาบันสอนทำอาหารระดับโลกแห่งเดียวในไทยอย่าง Le Cordon Bleu Dusit ตอบทุกไลฟ์สไตล์ ทุกแพชชั่นการกินและการทำอาหารอย่างแท้จริง ตอกย้ำเซ็นทรัลเวิลด์ในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหาร (Food Destination) ที่หลากหลายที่สุดเพื่อให้ทุกคนที่มาได้รับประสบการณ์ความอร่อยร่วมกัน และดื่มด่ำกับโลกของอาหารในแบบของตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมจัดทำ “ฟู้ดไบเบิ้ล” ที่รวมร้านอาหารทั้งหมด 215 ร้านในเซ็นทรัลเวิลด์ แบ่งตาม Lifestyle Insight การทานอาหารของคนออกเป็น 8 สาย ได้แก่ สายแข็งชาบู-ปิ้งย่าง, สายมิชลิน, สายคาเฟ่ของหวาน, สายอินเตอร์, สาย Thai Taste, สายกินง่ายๆ, สายปาร์ตี้แฮงค์เอ้าท์, และสายครีเอทีฟคุ้กกิ้ง โดยภายในงานได้จัด Exclusive Food Tasting แนะนำเมนูไฮไลท์ของร้านอาหารในแต่ละสายมารวมตัวกันมากที่สุดเป็นครั้งแรก โดยมีเซเลบริตี้ อาทิ ปฏิญญา เกี่ยวข้อง, ตวงทิพย์ ณ นคร, จิรดา โยฮารา, พัฒพงษ์ - ปรียามล ธนวิสุทธิ์, ปวีณสุดา ดรูอิ้น, เปรมิกา ปาเมล่า ปาสิเนตตี้, แอนโทเนีย โพซิ้ว, ปัณฑิตา ตั้งไชยวงศ์, ไอริส อินทรโกมาลย์, สุทธดา พิพัฒน์วีรวัฒน์, นิธินันท์ นฤมิตเลิศ และ ปุณณภา เตชะโรจน์กุล ร่วมงานด้วย
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ประเทศไทยถือได้ว่าเป็น Food Heaven ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ดังนั้นการมี Food Destination ในศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ระดับเอเชียและถือเป็นหนึ่งในอันดับต้นๆ ของโลกจะเป็น Impactful Magnet ที่สำคัญของประเทศไทย เซ็นทรัลเวิลด์ในฐานะแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ได้รวบรวมร้านอาหารอร่อยทุกรูปแบบมาไว้ในที่เดียวมากถึง 215 ร้านซึ่งมากที่สุดในเอเชียและครบทุกประเภท และหลากหลายที่สุดเพื่อให้ทุกคนที่มาได้รับประสบการณ์ความอร่อยและดื่มด่ำกับโลกของอาหารในแบบของตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นอกจากนี้ ภายในเดือนธันวาคม 2563 – มกราคม 2564 จะมีร้านอาหารใหม่กว่า 10 ร้านที่เป็นร้านดังจากต่างประเทศและร้านอาหารที่คว้าดาวมิชลินมาเปิดให้บริการที่เซ็นทรัลเวิลด์เพิ่มเติม เพิ่มเติม อาทิ Tsuta ร้านราเมนร้านแรกของโลกและร้านแรกของญี่ปุ่นที่ได้รับ 1 Michelin Star เมื่อปี 2015 และร้าน Kam’s Roast Goose ร้านห่านย่างเจ้าดังจากฮ่องกง การันตีความอร่อยระดับ 1 ดาวมิชลินถึง 5 ปีซ้อนที่จะมาเดือน ม.ค. 64, TP Tea by Chun Shui Tang ต้นตำรับชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลก, The Cassette Music Bar เตรียมยกบรรยากาศยุค 90’ และเพลงดังสุดฮิตให้มาย้อนเวลาไปพร้อมกัน, ร้าน Seoul Garden ปิ้งย่างชื่อดังสุดฮิตจากเกาหลีที่แรกในไทย เป็นต้น”

อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลเวิลด์เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่รวมร้านอาหารชื่อดังทุกรูปแบบไว้มากที่สุด เพราะแต่ละคนมีความชอบ และ Passion เรื่องอาหารที่แตกต่างกัน และคนหนึ่งคนก็สามารถ Create their own experiences ในแต่ละครั้งที่มาได้ไม่เหมือนกัน เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำถาม ‘วันนี้จะกินอะไรดี?’ และยิ่งเซ็นทรัลเวิลด์เป็นศูนย์การค้าที่กว้างใหญ่มาก หลายคนรู้ว่ามีร้านอาหารเยอะ แต่ไม่รู้ว่ามีร้านอะไรบ้างและอยู่ตรงไหน เราจึงได้นำจุดนี้มาสร้างเป็น Food Bible ที่จะทำให้คำถามที่ว่า วันนี้จะกินอะไรดี? หมดไป โดยเราได้ข้อมูลเจาะลึกมาจาก Lifestyle Insight ในการทานอาหารของคนในปัจจุบัน

ปรียามล ธนวิสุทธิ์ บอกว่า การที่เซ็นทรัลเวิลด์ครีเอท “ฟู้ดไบเบิ้ล” เพื่อเป็นไกด์นำทางให้ลูกค้าเป็นไอเดียที่ดีมาก การที่จะแบ่งประเภทร้านอาหารได้มากถึง 8 ประเภทก็เพราะร้านอาหารที่อยู่ภายในนี้มีจำนวนมากและหลากหลายอย่างแท้จริง ถ้าให้มานึกเองก็ไม่มีทางรู้เลยว่าทั้ง 215 ร้านมีอะไรบ้าง แต่ถ้ามี Food bible นี้อยู่ในมือแล้วชีวิตจะง่ายขึ้น หลายร้านยังคงต้องไปค้นหา และทุกๆ วันหยุดครอบครัวเราก็จะไปหาร้านอร่อยๆ ทานร่วมกันซึ่งแต่ละอาทิตย์ก็จะแบ่งคิวกันของลูกๆ ว่าใครจะเลือกทานอะไร เราจึงสามารถแก้ปัญหา “วันนี้กินอะไร” ได้ง่ายๆ แค่หันไปถามลูก สำหรับตนถนัดสาย Thai Taste มากที่สุด เพราะกินได้บ่อยๆ ไม่ค่อยเบื่อ


ปฏิญญา เกี่ยวข้อง บอกว่า เวลามาที่เซ็นทรัลเวิลด์เราจะชอบไปกินร้านที่เรารู้จักและคุ้นเคยอยู่แล้ว และต้องเป็นร้านที่ทานง่ายๆ กินเร็วๆ ประเภทอาหารจานเดียวหรือก๋วยเตี๋ยว อย่างทองสมิทธิ์และบ้านหญิงก็ทานบ่อยมาก เพราะจะรีบไปช้อปปิ้งหรือดูหนังต่อ เลยจะไม่ค่อยเข้าร้านที่ต้องรอนานๆ หรือร้านนั่งชิลล์เท่าไหร่ แต่ถ้ามาทานข้าวกับเพื่อนๆ คนเยอะๆ ก็ชอบไปแหลมเจริญเพราะเป็นซีฟู้ดที่มีความหลากหลายของเมนู บางทีเราอาจจะมีร้านในดวงใจแต่เราก็สามารถเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลาเหมือนกัน ซึ่งปัญหาคือนึกไม่ออกว่าร้านอยู่ตรงไหนและไม่รู้จะทานอะไร และทุกครั้งก็จะไปแต่ร้านเดิมๆ การที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลเวิลด์ทำ “ฟู้ดไบเบิ้ล” ออกมาเพื่อเป็นแผนที่นำทางเราไปหาความอร่อยของร้านต่างๆ ก็จะทำให้ได้ลองกินร้านใหม่ๆ และทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น และทำให้รู้เลยว่าร้านอาหารที่นี่มีเยอะมากจริงๆ










กำลังโหลดความคิดเห็น