“ศักดิ์สยาม” ดันพัฒนา “แอปฯ แท็กซี่” เป็นศูนย์กลางเรียกใช้แท็กซี่ในระบบในต้นปี 64 และใช้แอปฯ ติดตามรถ แทนกล่อง GPS ลดค่าใช้จ่ายรายเดือนให้ผู้ประกอบการ ส่วนขยายอายุเป็น 12 ปี รอกฤษฎีกาผ่านร่างกฎกระทรวงมีผลทันที ย้ำต้องผ่านตรวจสภาพ 4 ครั้ง/ปี
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “PT LPG เพื่อแท็กซี่ สู้วิกฤต” ว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการรถสาธารณะ ลดการใช้รถส่วนตัวซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษ ในขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการแท็กซี่อีกด้วย เช่น มีคูปองส่วนลดค่าเติมLPG เป็นต้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ได้
โดยผู้ประกอบการแท็กซี่ทั้งประเทศมีประมาณ 80,000 คัน เป็นแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง ประมาณ 20,000 คัน ในระยะแรกของโครงการจะเปิดรับแท็กซี่จำนวน 10,000 คัน และเฟส 2 ขยายครบ 20,000 คัน ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจในประเทศกำลังฟื้นตัว แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะ ดังนั้น อยากเชิญชวนเอกชนรายอื่นเข้ามาร่วมช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ และผู้ประกอบการในเซกเตอร์อื่นๆ ในรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าความร่วมมือกันในทุกภาคส่วนจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของไทยจะกลับมาเข้มแข็งได้
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลตระหนักดีว่าได้รับผลกระทบโดยตรง กระทรวงคมนาคมจึงได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือด้วยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลและส่งเสริมให้สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ โดยขณะนี้กรมขนส่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันกลาง ทางเลือกสำหรับประชาชนในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่โดยไม่หักส่วนแบ่งค่าบริการ และการพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามรถ ใช้งานแทนกล่อง GPS เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของแท็กซี่ และสามารถบริหารจัดการให้แท็กซี่และผู้โดยสารติดต่อกันเพื่อกำหนดจุดในการรับ-ส่ง โดยไม่ต้องวิ่งรถวนหาผู้โดยสาร โดยมีการกำกับมาตรฐาน ราคาคุณภาพ ความสะดวกสบาย คาดว่าจะได้เห็นในต้นปี 2564
ก่อนหน้านี้ได้ อนุมัติการเก็บค่าบรรทุกสัมภาระ โดยจำกัดเฉพาะการใช้บริการรถแท็กซี่จากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือการจ้างจากสถานที่อื่นไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563
และล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบหลักการขยายอายุการใช้งานของรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน จาก 9 ปี เป็น 12 ปี โดยจะต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากกรมการขนส่งทางบก ปีละ 4 ครั้ง และมีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนสังคม ความมั่นใจว่าการขยายอายุรถยังมีคุณภาพมาตรฐานที่จะไม่สร้างปัญหามลภาวะ และ PM 2.5 โดยหากคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับร่างกฎกระทรวงพร้อมลงนามและบังคับใช้ได้ทันที
สำหรับโครงการ “PT LPG เพื่อแท็กซี่ สู้วิกฤต” ทางบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ได้จัดงบ 22 ล้านบาท มีกิจกรรมมอบคูปองส่วนลดพิเศษ 1,100 บาทให้แท็กซี่ใช้เป็นส่วนลดค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันเครื่อง ค่าแก๊สหุงต้ม ส่วนผู้โดยสารที่เรียกใช้บริการแท็กซี่ได้รับคะแนนสะสม เพื่อใช้เป็นส่วนลด ในการสร้างแรงจูงใจให้ใช้บริการแท็กซี่มากขึ้น เปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2563 ที่สถานีบริการ LPG ของ PT 50 สถานี ในเขต กทม.และปริมณฑล โดยคาดว่ามีผู้ขับขี่เข้าร่วมกิจกรรม 10,000 คัน