“สุริยะ” นำทีมลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างคลังน้ำมันและท่อส่งน้ำมัน เอ็นเอฟซีที (NFCT Terminal) ในนิคมฯ มาบตาพุดหนุนลงทุนอีอีซี ดันไทยศูนย์กลางพลังงานภูมิภาค ลงทุน 2,570 ล้านบาท คาดก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2564
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยหลังลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการคลังน้ำมันและท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง (NFCT Fuel Tank Farm Project) ของบริษัท เอ็นเอฟซีที จำกัด ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดหน้าดินโครงการฯ ว่า โครงการดังกล่าวมีส่วนสำคัญต่อความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานและสร้างศักยภาพให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับการขับเคลื่อนการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
“โครงการนี้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐด้านต่างๆ รวมทั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ของประเทศได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า โครงการคลังน้ำมันและท่อส่งน้ำมันตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมฯ มาบตาพุด จังหวัดระยอง พื้นที่ 43 ไร่ โดยเป็นการเช่าพื้นที่ กนอ.ของบริษัท เอ็นเอฟซีที จำกัด เพื่อรองรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านพลังงาน และสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายในการจัดส่งน้ำมันระดับภูมิภาค ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ของประเทศ โดยโครงการดังกล่าวฯ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (สผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมโครงการฯ อยู่ที่ประมาณ 2,570 ล้านบาท คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2564
นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็นเอฟซีที จำกัด กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนเพื่อขยายขอบเขตธุรกิจการให้บริการด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าเหลวของกลุ่มบริษัทเอ็นเอฟซี เพื่อสนับสนุนรายได้ให้แก่ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงของการลงทุน บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยเสริมศักยภาพและส่งผลให้ธุรกิจในภูมิภาคเติบโตมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ โครงการฯ ประกอบด้วย คลังน้ำมัน และถังจัดเก็บน้ำมันแก๊สโซลีนพื้นฐาน จำนวน 6 ถัง ขนาดความจุรวม 90 ล้านลิตร เพื่อใช้รองรับน้ำมันที่ขนถ่ายมาจากเรือขนน้ำมันนำเข้าขนาดกลาง (medium range) ก่อนที่จะขนสูบผ่าน 2 ทาง คือ ผ่านท่อขนส่งน้ำมันเข้าสู่ระบบท่อส่งน้ำมันของผู้ประกอบการขนส่งน้ำมันทางท่อ และเข้าสู่เรือขนส่งน้ำมัน