สมอ.ถกผู้ประกอบการทำ-นำเข้า ปลั๊กไฟ สายไฟ เพาเวอร์แบงก์ และเบรกเกอร์ กว่า 600 ราย เตรียมความพร้อมก่อนมาตรฐานมีผลบังคับใช้ เพื่อความปลอดภัยผู้บริโภค
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการกำหนดให้สินค้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานในวันนี้ (20 ตุลาคม 2563) ว่า สมอ.ได้ประกาศให้ปลั๊กไฟ เพาเวอร์แบงก์ สายไฟ และเบรกเกอร์ เป็นสินค้าควบคุมที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากหากสินค้าดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ สมอ.จึงได้จัดสัมมนาเพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ทำ และนำเข้าสินค้าดังกล่าว กว่า 600 รายทั่วประเทศได้เตรียมความพร้อมการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“สมอ.มุ่งเน้นการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้เพื่อให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องข้อกำหนดของสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงแก้ไขสินค้าให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง” นายวันชัยกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานดังกล่าวได้ ผ่านทางระบบ e-License บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.itisi.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผลทดสอบผลิตภัณฑ์และผลตรวจโรงงานจะถูกส่งตรงจากห้อง LAB และหน่วยงาน Outsource ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ประกอบการไม่ต้องมีภาระเรื่องเอกสารดังกล่าวอีกต่อไป สำหรับการชําระค่าบริการและค่าธรรมเนียมงานบริการด้านอื่นๆ ผู้ประกอบการก็สามารถดำเนินการผ่านระบบ e-Payment ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาชำระที่ สมอ. สามารถชําระค่าบริการและค่าธรรมเนียมผ่านทางธนาคารได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
“หลังจากนี้ สมอ.จะดำเนินการตรวจควบคุมการทำ นำเข้า และจำหน่ายสินค้าทั้ง 4 รายการในท้องตลาดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมทั้งที่จำหน่ายผ่านทางออนไลน์ด้วยซึ่งตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา สมอ.ได้ยึดอายัดสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานมูลค่ารวมกว่า 568 ล้านบาท สำหรับในปี 2563 ได้ยึดอายัดกว่า 143 ล้านบาท และเพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นไปอย่างครอบคลุม และทั่วถึง สอดคล้องตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สมอ.ได้เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการตรวจควบคุมและกำกับติดตามร้านจำหน่ายให้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจของเจ้าหน้าที่ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ทันต่อยุคสมัย” นายวันชัยกล่าว
นอกจากนั้นแล้ว ในวันที่ 21 มกราคม 2564 ที่จะถึงนี้ สมอ.ยังได้กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกรายจะต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าด้วย โดย สมอ.ได้จัดทำเป็น QR Code เพื่อให้ผู้รับอนุญาตนำไปแสดงบนสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าได้ง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ก่อนตัดสินใจซื้อ