ตลท.-กฟผ.ลงนามความร่วมมือในการศึกษาการพัฒนาความพร้อมเพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าระดับขายส่ง ฉบับที่ 2 เผยผลการศึกษาไทยพร้อมพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าระดับขายส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านไฟฟ้า และขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้า ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของอาเซียน
วันนี้ (29 ก.ย.) นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการศึกษาการพัฒนาความพร้อม เพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าระดับขายส่ง ฉบับที่ 2
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท.กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการนำผลการศึกษาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กฟผ.ศึกษาร่วมกันระยะเวลา 1 ปี มาพัฒนาต่อยอด โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะถ่ายทอดความรู้ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ การส่งมอบ การชำระราคาหลักทรัพย์ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Intermediaries) เชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวเป็นโอกาสที่จะนำผลการศึกษาไปต่อยอดสู่การพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่พร้อมเติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ และด้วยศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวถึงผลการศึกษาการพัฒนาความพร้อมเพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง (Wholesale Electricity Market) ที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ว่า กฟผ.เล็งเห็นถึงโอกาสในการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งมีรูปแบบคล้ายตลาดซื้อขายไฟฟ้าในยุโรป โดยระยะแรก กฟผ.มีแผนจัดตั้งตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย ตลาดซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้าหนึ่งวัน (Day-Ahead Market) และตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างวัน (Intraday Market) โดย กฟผ.จะเป็นผู้จัดทำกฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการพัฒนาระบบซื้อขาย เมื่อตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 มีเสถียรภาพและสภาพคล่องแล้วอาจพิจารณาให้มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายกำลังการผลิตไฟฟ้า (Capacity Market) สำหรับจัดหากำลังการผลิตล่วงหน้า และพัฒนาต่อเป็นสินค้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในอนาคต ทั้งนี้ การพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้ายังต้องปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ โครงสร้างกิจการไฟฟ้า รวมถึงการกำหนดนโยบายร่วมกันในการพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนในรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้งในระดับประเทศ และภูมิภาคอาเซียน
สำหรับการขยายโครงการความร่วมมือนั้น คณะทำงานฯ ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 2 มีกรอบระยะเวลา 6 เดือน เพื่อศึกษาพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของตลาดซื้อขายไฟฟ้าในเชิงลึกในแต่ละด้าน เช่น แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต ระเบียบการซื้อขายในตลาดซื้อขายไฟฟ้าสอดคล้องและเหมาะสมกับประเทศไทย บทบาทและความสำคัญของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange Market) และตลาดการเงิน (Financial Market) ในกิจการไฟฟ้าในอนาคต การแข่งขันในตลาดทุน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้า เพื่อนำข้อมูลจากการศึกษามาใช้ประกอบการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงการเสนอให้มีการศึกษาการเปิดเสรีกิจการไฟฟ้าในระดับขายปลีกเพิ่มเติม เพื่อหาข้อดี ข้อเสีย ของอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในรูปแบบเดิม และรูปแบบการแข่งขันเสรีเต็มรูปแบบทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค