“โตโยสึ” ลุยสินค้าไลฟ์สไตล์ ปั้น “นิชิกาวะ แอร์” บุกตลาดที่นอนหรู

ผู้จัดการรายวัน 360 - TTTC ปล่อยหมัดเด็ดลุยสินค้าไลฟ์ & คอมมูนิตี้ ส่งเครื่องนอนหรูจากญี่ปุ่น แบรนด์ “นิชิกาวะ แอร์” ลุยตลาดไทย เน้นทำตลาดผ่าน B2B สร้างการรับสู่ลูกค้า B2C หวังสิ้นปีนี้กวาดรายได้อย่างน้อย 20 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทน่าจะมีรายได้รวมที่ 50 ล้านบาท

นายโนบุฟุมิ มิอุระ ประธานกรรมการ บริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท TTTC เปิดเผยว่า โตโยสึ แอล แอนด์ ซี ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา มุ่งเน้นในการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆในด้านไลฟ์แอนด์คอมมูนิตี้ ที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คนมากขึ้น เน้นการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มในการดำเนินธุรกิจ คัดเลือกผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นคุณภาพตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน เน้นการจำหน่ายสินค้าในลักษณะ B2B มาเป็นสินค้าในลักษณะ B2C มากขึ้น โดยให้ความสำคัญในช่องทาง B2C 60% ส่วน B2B และ B2E 40% ตั้งเป้ายอดขายรวมภายในสิ้นปีนี้ที่ 50 ล้านบาท


ด้านนางอนุษฐา เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการ บริษัท โตโยสึ แอล แอนด์ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันบริษัท ดูธุรกิจใน 4 ส่วนหลัก คือ 1. บิสิเนสแมชชิ่ง กับการจัดงาน โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2. ลงทุนกับบริษัท สตาร์ทอัพ อย่างโตโยสึ ดีเอ็กซ์ กับการให้บริการ Flare Appication 3. Well -Being และ 4. แบรนด์ดิ้ง กับการนำเข้าเครื่องนอน แบรนด์ นิชิกาวะ แอร์ ซึ่งแผนการดำเนินงานของบริษัทจะเน้นลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นหลัก รวมถึงนำเข้าแบรนด์สินค้าคุณภาพจากญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะเห็นอย่างน้อยอีก 1 แบรนด์ในปีหน้า

สำหรับการทำตลาดเครื่องนอน แบรนด์ นิชิกาวะ แอร์ ในไทย ที่มีประวัติความยาวนานกว่า 454ปี ได้รับการยอมรับจากคนญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ที่นอนอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน มีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยี 1,860 ปุ่มของที่นอน ช่วยโอบรับสรีระ ลดการกดทับ รวมทั้งเป็นเทคโนโลยีที่ท่านอนใกล้เคียงกับท่ายืนมากที่สุด ซึ่งได้เริ่มทดลองทำตลาดมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยการเปิดสาขาแรกที่ห้างสยามทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม และเปิดโชว์รูมเต็มรูปแบบแห่งแรกขึ้นที่ สำนักงานบริษัท โตโยต้า ทูโชว์ (ไทยแลนด์) จำกัด ปัจจุบันมีลูกค้า B2B แล้ว 2 ราย คือ กลุ่มท่องเที่ยว กับรถไฟสาย Eastern & Oriental Express และโรงแรมหรู แบรนด์ไทยอีก 1 แห่ง


“รูปแบบการทำตลาดของ นิชิกาวะ แอร์ จะรุกในส่วนของ B2B เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, โรงแรม, โรงพยาบาล โครงการอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทที่ทำรอยัลตี้สะสมแต้มแลกของรางวัล เพื่อสร้างการรับรู้ไปสู่ลูกค้าทั่วไป ซี่งถือเป็นเป้าหมายหลักของบริษัท จึงมีการทำโชว์รูมในพื้นที่สำนักงาน โดยมีสินค้าไฮไลต์ เช่น Air Si Mattress, Air 01 Mattress, Air Portable เพื่อให้พนักงาน และผู้อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้มาทดลองใช้ ทำให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง เพื่อนำไปสู่กลุ่มลูกค้าแบบB2C ตามแผนที่วางไว้ มั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้ 20 ล้านบาทให้กับบริษัท”

สำหรับตลาดเครื่องนอนมีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง 5-7% แบ่งออกเป็น กลุ่มระดับล่าง 50% ราคาต่ำกว่า 7,000 บาท ไม่โต เพราะแข่งขันด้านราคาสูง กลุ่มระดับกลาง 30% ราคาตั้งแต่ 7,000-20,000 บาท โต 10% และกลุ่มพรีเมียม 20% ราคาตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป โต7-8% ซึ่งในกลุ่มพรีเมียมนี้มีผู้เล่นหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในการนำเสนอให้กับลูกค้า