ผู้จัดการรายวัน360- เทสโก้ โลตัส แต่งตั้งให้ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและดูแลคลังสินค้าด้านสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอาหารสดและอาหารแช่แข็งของศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค เทสโก้ โลตัส ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
แอนน์ เบลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ เทสโก้ โลตัส ได้ตัดสินใจจับมือเป็นพันธมิตรกับ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อการพัฒนาธุรกิจของเราให้เติบโตต่อไป
โดยดีเอชแอล ซัพพลายเชน จะเป็นผู้บริหารการดำเนินงานคลังสินค้าของเทสโก้ โลตัส ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีพื้นที่จัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 51,500 ตารางเมตร เพื่อดำเนินการจัดส่งให้แก่ลูกค้าทั่วทั้งภาคใต้ของประเทศไทย ทีมงานดีเอชแอลจะรับผิดชอบกิจกรรมการขนส่งทั้งขาเข้าและขาออก การบริหารจัดการสินค้าคงคลังและการจัดเก็บสินค้าอาหารสดและอาหารแช่แข็งในอุณหภูมิที่เหมาะสม รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณของสินค้าที่ขนส่งเข้าและออกศูนย์กระจายสินค้าอย่างเข้มงวด ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้มาตรฐานด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยที่รัดกุม และสอดคล้องตามข้อกำหนดและกฎหมายของประเทศไทย
มร.เควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวว่า “ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบันและสินค้าที่มีคุณภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย การดำเนินธุรกิจที่ฉับไวและรวดเร็วจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อสร้างหลักประกันการส่งมอบสินค้าที่สม่ำเสมอ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำในตลาดของเรา เราจะมุ่งมั่นให้บริการคลังสินค้าและการขนส่งที่ดีที่สุดแก่เทสโก้ โลตัส เพราะเราไม่ใช่เป็นเพียงผู้ให้บริการเท่านั้น หากยังเป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ในด้านการออกแบบโซลูชั่นการปฏิบัติงานที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้เทสโก้ โลตัส บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ”
ดีเอชแอล ซัพพลายเชน จะทำหน้าที่กระจายสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าของเทสโก้ โลตัส ไปยังร้านค้าปลีกเทสโก้ โลตัสกว่า 220 แห่งในภาคใต้ของประเทศไทยและส่งมอบผลิตภัณฑ์จำนวนมากกว่า 50.4 ล้านกล่องต่อปี โดยดีเอชแอลจะเพิ่มกองทัพรถบรรทุกแบบ 32 พาเลทรุ่นใหม่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระงานและประหยัดเวลาได้กว่า 50% รวมถึงขนส่งปริมาณสินค้าได้เพิ่มขึ้น 23% ต่อเที่ยว
แม้การซื้อขายสินค้าออนไลน์ในเมืองไทยจะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่การซื้อสินค้าตามร้านค้าปกติหรือแบบออฟไลน์ยังคงมีปริมาณสูงเช่นกัน ปัจจุบันมีโมเดลธุรกิจแนวใหม่ที่เรียกว่า Online to Offline (O2O) ซึ่งเชื่อมโยงช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยที่ผู้ประกอบการสามารถใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าได้ เทสโก้ โลตัส มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่หลากหลาย ทั้งแพลทฟอร์มของตนเอง และตลาดออนไลน์ชั้นนำในประเทศไทย อย่าง Lazada และ Shopee นอกจากนี้ยังนำเสนอบริการแบบ omni-channel ผสานการให้บริการทั้งผ่านสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า อาทิ บริการ Click & Collect, Chat & Shop, และ Chat & Collect
