ผู้จัดการรายวัน360 – “เดอะมอลล์” เตรียมทุ่มมากกว่าพันล้านบาท บิ๊กรีโนเวต ดิ เอ็มโพเรี่ยม สู่โมเดลใหม่ ล่าสุดอัดงบ 200 ล้านบาท ปรับพื้นที่เป็นเอ็มจอยโซน กว่า 6 พันตารางเมตรที่ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นพื้นที่เรียนรู้จับกลุ่มครอบครัวและเด็ก
นางสาวอรธิรา ภาคสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ในเครือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงกลางปีหน้า(2564) เดอะมอลล์กรุ๊ปจะทำการรีโนเวทครั้งใหญ่ หรือ บิ๊กรีโนเวท (Big Renovate) สำหรับ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม หลังจากที่เคยทำการปรับครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อช่วง 4 – 5ปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้กลมกลืนกันระหว่างศูนย์การค้ากับห้างสรรพสินค้า แตกต่างจากแบบเดิมที่ผ่านมาที่แยกพื้นที่และบรรยากาศจากกันอย่างชัดเจน แต่ยังคงความเป็นลักซ์ชัวรี่เหมือนเดิม
โดยคาดว่าจะใช้งบรวมไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท และทยอยการปรับปรุงเป็น 4 เฟสหลักๆไม่ได้ปิดทั้งศูนย์ ซึ่งการปรับครั้งนี้เนื่องจากได้เวลาในการปรับเพื่อให้สอดรับกับนิวนอร์มัล จะมีการออกแบบที่ใหม่นิวรีเทล ปรับเปลี่ยนโซนใหม่ มีร้านค้าใหม่เข้ามาด้วย โดยเฉพาะร้านค้าที่เป็นร้านอาหารซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 30% จากทั้งหมด และร้านลักซ์ชัวรี่อื่นๆและเป็นช่วงที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะหมดสัญญาเช่าระยะยาวด้วย โดยคาดว่าการรีโนเวตจะแล้วเสร็จปลายปี2565 และแต่ละศูนย์ฯจะมีร้านค้าประมาณ 250 ยูนิต
สำหรับบรรยากาศของศูนย์การค้าในขณะนี้ หลังจากที่ได้ปลดล็อกและเปิดบริการแล้ว พบว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นต่อเนื่องแล้วแต่ยังไม่ถึงปริมาณเท่าเดิม ซึ่งปริมาณทราฟฟิกเดิมทั้ง 2 ศูนย์การค้ารวมกันอยู่ที่ มากกว่า 1 แสนคนในวันธรรมดา และประมาณ 120,000 – 200,000 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่ร้านค้าลักซ์ชัวรี่บางแบรนด์มียอดขายที่ดีกว่าในช่วงก่อนโควิด-19 เนื่องจากลูกค้าคนไทยระดับบนที่ปกติไปช้อปปิ้งต่างประเทศ แต่ขณะนี้ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้จึงหันมาช้อปปิ้งแบรนด์เนมในไทยแทน
ล่าสุดได้ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อปรับพื้นที่ใหม่เปิดเป็นEMJOY ตามแนวคิดของศูนย์การค้าในการที่จะจัดทำพื้นที่ในส่วนของ Edutainment Mixed Use ในรูปแบบใหม่ โดยเอ็มจอยโซนนี้พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ชั้น2อาคารซี ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งพื้นที่นี้เดิมทีเป็นโซนไทยดีไซน์เนอร์ แต่ย้ายไปที่ ดิ เอ็มโพเรี่ยม โดยโซนEMJOYนี้จะเป็นพื้นที่สร้างการเรียนรู้สำหรับเยาวชน รวบรวมสถาบันการศึกษาเสริมทักษะความรู้นอกตำราโดยแบ่งเป็น Category ต่างๆ ได้แก่ Brain Evolution, Art & Music, Dance & Sport, Kid Facility และ Café & Dining รวมทั้งหมด 18 แห่ง
โดยมีสถาบันที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยที่ EMJOY ได้แก่ Copel สถาบันพัฒนาสมองเด็กเล็กที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับที่ประเทศญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี และ KX Smart Play ศูนย์พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ที่เป็นต้นแบบจากการบริหารงานของ KX Knowledge Xchange มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยใช้ระบบการสอนของโรงเรียนดรุณสิขาลัย ที่เน้นทางด้านพัฒนา แนวความคิดเชิงสร้างสรรค์
รวมถึงสถาบันการศึกษาชื่อดังที่เข้าเปิดบริการครั้งแรกในศูนย์การค้าอย่าง D Dance Thailand พร้อมสถาบันการศึกษาชื่อดังและร้านค้าต่างๆ ได้แก่ Code Genius, Haole, I Can Read, Math Talent, Clayworks, Kolor Me, โรงเรียนดนตรีมหาวิทยาลัยมหิดล, Play Chef, Voclize, Bungee Workout, โรงเรียนชอยเทควันโด (โค้ชทีมชาติ)โดยในแต่ละสถาบันจะมีการเสริมคอร์สและ รูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับไลฟสไตล์ของลูกค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ที่แตกต่างๆจากที่อื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและบริการต่างๆ ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของเด็กๆและครอบครัว อาทิ Little Red Fox ซาลอนร้านทำผมสำหรับเด็กๆ, Tanwa The Food Project ร้านอาหาร ออแกนิค ของแบรนด์ คอนเซปต์สโตร์ Tanwa รวมถึง ร้าน Greyhound Café ที่เพิ่มเมนูอาหารสำหรับกลุ่มครอบครัวและร้าน Take Care ที่มีบริการทำผมและเสริมสวยสำหรับเด็กๆ
โดยการเปิดโซนเอ็มจอยนี้ จะเป็นการปรับพื้นที่เพื่อรองรับกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นครอบครัว ซึ่งเดิมกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 30% จากฐานลูกค้าทั้งหมด และเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงประมาณ 16,000 บาทต่อครั้งเพราะมาเป็นกลุ่มครอบครัวหลายคน และมีการใช้เวลาในศูนย์มากกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีโอกาสในการใช้จ่ายมาก และเป็นกลุ่มที่มีประมาณ 13% จากจำนวนผู้ถือบัตรเอ็มการ์ดของเดอะมอลล์ที่ประมาณ 4.2 ล้านราย ขณะที่อีก 2 กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มคนทำงานประมาณ 50% และที่เหลืออีก 20% เป็นกลุ่มเอ็กซ์แพท
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะใช้งบตลาดรวมมากกว่า 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการส่งเสริมการขาย จัดอีเวนต์ รวมทั้ง 2 ศูนย์ฯ ซึ่งประมาณ 30 ล้านบาท จะใช้ในการโปรโมทพื้นที่ใหม่ เอ็มจอยโซนโดยเฉพาะ