“ไมเนอร์” ทยอยเปิดโรงแรม อัดแคมเปญเด็ดรับ “เราเที่ยวด้วยกัน”

กลุ่มโรงแรมไมเนอร์ โฮเทลส์ ภายใต้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศทยอยเปิดโรงแรมทั่วไทย พร้อมดึงเทคโนโลยีเสริมมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการ โดยเปิดตัวมาตรการ “พักอย่างสบายใจ” ณ เครือโรงแรมอนันตรา และมาตรการ “อวานี ชิลด์” ณ เครือโรงแรมอวานี ซึ่งเป็น 2 แบรนด์โรงแรมหลักของกลุ่มในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการ พร้อมขานรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เปิดรับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักสูงสุดถึง 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน และบัตรกำนัล เสริมด้วยโปรโมชันพิเศษสำหรับคนไทยและผู้ที่พำนักในประเทศไทย ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ณ โรงแรมในเครือทั่วไทย

มร.โทมัส ไมเออร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ (เอเชีย) ของกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ในเครือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า ไมเนอร์ โฮเทลส์ เป็นบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยในปัจจุบันมีโรงแรมจำนวนทั้งหมดมากกว่า 535 แห่ง ใน 56 ประเทศ โดยโรงแรมอนันตรา และโรงแรมอวานี ซึ่งเป็น 2 แบรนด์หลักของกลุ่มในไทย ได้ทยอยเปิดให้บริการหลังจากที่รัฐบาลได้มีการคลายล็อกดาวน์ทั่วประเทศ พร้อมยกระดับมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของโรงแรมในเครือเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งพนักงานและแขกผู้ใช้บริการ โดยได้ทำงานกับผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก (WHO) อีโคแล็บ (Ecolab) และองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency - EPA) ในการกำหนดมาตรฐานด้านความสะอาดพร้อมนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ เข้ามาใช้ในทุกขั้นตอน


โดยกลุ่มโรงแรมอนันตรา ได้กำหนดมาตรการภายใต้ชื่อ 'พักอย่างสบายใจ' (Stay with Peace of Mind) เริ่มตั้งแต่การจัดการบริการที่เน้นการเว้นระยะห่าง การตรวจเช็กอุณหภูมิ การจัดอุปกรณ์ป้องกันและเจลล้างมือไว้ให้บริการ การทำความสะอาดฆ่าเชื้อในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก พื้นที่สาธารณะ รวมถึงกระเป๋าเดินทางและสิ่งของต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 การใช้เทคโนโลยีพ่นสเปรย์แบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Spray Technology) เพื่อให้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อที่ฉีดพ่นครอบคลุมพื้นผิวต่างๆ อย่างทั่วถึงก่อนนำส่งขึ้นห้องพัก ทางเครืออนันตรายังได้จับมือกับ สยาม โอเชียน เทคโนโลยี ในการนำระบบปรับสภาวะอากาศ ด้วยเทคโนโลยี HAVC การทำความร้อน (Heating) การระบายอากาศ (Ventilation) และการปรับอากาศ (Air Conditioning) ควบคุมอุปกรณ์ทุกอย่างผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Internet of Things - IoT) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแขกผู้เข้ามาใช้บริการจะได้มีอากาศบริสุทธิ์

ในส่วนของเครือโรงแรมอวานี ได้กำหนดมาตรการด้านอนามัยและความปลอดภัยภายใต้ชื่อ อวานี ชิลด์ (Avani SHIELD) ซึ่งนอกจากจะปฏิบัติตามมาตรฐานในการทำความสะอาดต่างๆ ตามที่หน่วยงานระดับโลกได้กำหนดแล้ว อวานียังเน้นการให้บริการในรูปแบบที่ลดการสัมผัส (Touchless Service) เช่น พนักงานจะมีการทักทายแบบไม่สัมผัสร่างกาย มีการใช้แอปพลิเคชันคอนเซียร์จ (Concierge App) แพลตฟอร์มออนไลน์อำนวยความสะดวกในการเช็กอินและเช็กเอาต์ก่อนเดินทางมาถึง ดูเมนูและสั่งอาหารในห้องพัก และชำระค่าใช้จ่ายผ่านระบบชำระเงินออนไลน์และรับใบเสร็จผ่านทางอีเมล นอกจากนี้ โรงแรมในเครืออนันตรา และอวานีทั่วไทยยังได้รับประกาศนียบัตรและสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยหรือ “Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และประกาศนียบัตรจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นเครื่องยืนยันความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย


พร้อมกันนี้ มร.โทมัสได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อการท่องเที่ยวได้เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โรงแรมในเครือทั่วไทยยังได้เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม นี้ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถรับสิทธิ์ในการรับส่วนลดที่พัก 40% หรือสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สูงสุด 5 ห้อง หรือ 5 คืน รวมถึงคูปองมูลค่า 600 บาท ต่อวันเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ ทางโรงแรมยังจัดโปรโมชัน พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ห้องพักราคาพิเศษ ส่วนลดอาหาร เครื่องดื่ม และสปา สิทธิ์อัปเกรดห้องพักในกรณีที่มีห้องว่าง สิทธิ์เช็กอิน เช็กเอาต์ก่อนและหลังเวลาปกติ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพักฟรี บริการรถรับส่งสนามบิน ฯลฯ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดโปรโมชันและสิทธิพิเศษของแต่ละโรงแรมได้ทางเว็บไซต์ สามารถสำรองห้องพักและใช้สิทธิ์ตามโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม-31 ตุลาคมนี้

“หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แล้วเรามียอดจองและการเข้าพักโรงแรมโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ระดับสูง หรือเกือบเต็มในวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดยาวที่ผ่านมา และเมื่อมีมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เข้ามาช่วยสนับสนุนแล้ว จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการพักผ่อนได้เข้าพักในราคาที่คุ้มค่า พร้อมความประทับใจในการบริการ ภายใต้มาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทำให้เป็นวันพักผ่อนที่แสนพิเศษ อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของไมเนอร์ โฮเทลส์ ในที่สุด” มร.โทมัสกล่าวทิ้งท้าย