บขส.เพิ่มเที่ยววิ่งและเปิดเดินรถเส้นทางภาคเหนือเพิ่มจาก 15 เส้นทางเป็น 22 เส้นทาง หลังรัฐบาลและกรมขนส่งฯ มีมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง ให้จัดที่นั่งโดยสารไม่เกิน 70% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด
นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 และกรมการขนส่งทางบก มีการผ่อนคลายให้จัดที่นั่งบนรถโดยสารได้ไม่เกิน 70% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด
ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน บขส. จึงได้เพิ่มเที่ยววิ่งและเปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางภาคเหนือเพิ่มเติม จากเดิมที่เปิดให้บริการ จำนวน 15 เส้นทาง เพิ่มเป็น 22 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ – น่าน , กรุงเทพฯ – ลำปาง , กรุงเทพฯ – ตาก , กรุงเทพฯ – แม่สอด , กรุงเทพฯ – แม่สาย , กรุงเทพ - ท่าช้าง , กรุงเทพฯ – บ้านท่าตอน , กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ , กรุงเทพฯ –สุโขทัย , กรุงเทพฯ - กำแพงเพชร , กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์ , กรุงเทพฯ –เชียงราย , กรุงเทพฯ – พิษณุโลก , กรุงเทพฯ – ลำพูน , กรุงเทพฯ –สวรรคโลก , กรุงเทพฯ – พิจิตร , กรุงเทพฯ –เชียงของ ,กรุงเทพฯ – เชียงคำ ,กรุงเทพฯ – จอมทอง , และกรุงเทพฯ –คลองลาน เป็นต้น
โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามเส้นทางเดินรถเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า 7 วัน ผ่านเว็บไซต์ www.transport.co.th หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋ว www.busticket.in.th, www.pns-allthai.com , www.thaiticketmajor.com และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven อย่างไรก็ดี บขส.เตรียมขยายเวลาให้ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
ทั้งนี้ บขส.ได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้โดยสาร พนักงาน โดยในสถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด จัดทำมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) บนรถโดยสาร หากผู้โดยสารครบตามจำนวนที่กำหนด จะไม่รับผู้โดยสารรายใหม่เพิ่มโดยเด็ดขาด งดให้บริการอาหารเครื่องดื่มบนรถโดยสาร และไม่อนุญาตให้นำอาหารมารับประทานบนรถโดยสาร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส โดยจะให้รับประทานอาหารเฉพาะที่จุดพักรถเท่านั้น
พนักงานประจำรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าใช้บริการภายในสถานีขนส่ง และอยู่บนรถโดยสาร นอกจากนี้ได้ติดตั้งจุดบริการเจลล้างมือ และเพิ่มความถี่ทำความสะอาดภายในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับผู้โดยสารและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19