"สนธิรัตน์" จัดให้นั่งหัวโต๊ะ "กบง." เคาะเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ ทำราคาหน้าโรงกลั่นลด 50 สตางค์ต่อลิตร มีผล 17 มิ.ย. และขยายเวลามาตรการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนเคาะขยายเวลาลดราคา LPG ไปถึงเดือนกันยายน และ NGV ไปสิ้นเดือนกรกฎาคม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง.ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงร่วมกับภาคประชาชนเมื่อ 9 มี.ค. ตามหลักเกณฑ์ใหม่ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันลดลงเฉลี่ย 0.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสะท้อนไปยังราคาขายปลีกในอัตราดังกล่าวตามประเภทต้นทุนของทุกชนิดเชื้อเพลิง มีผล 17 มิ.ย.นี้
"ราคาขายปลีกจะเป็นอย่างไรก็จะต้องมาดูว่าค่าการตลาดขณะนั้นเป็นอย่างไรด้วยเป็นสำคัญ ดังนั้นก็อาจจะลดลงมากกว่านี้หรือลดต่ำกว่านี้คงต้องดูราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนั้นเป็นสำคัญ" นายสนธิรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบขยายมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยที่ก่อนหน้านี้ได้ลดราคาก๊าซหุงต้ม 3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือลดราคา 45 บาทต่อถังขนาด 15 กก. เป็นเวลา 3 เดือนซึ่งครบกำหนดวันที่ 24 มิถุนายน 63 โดยตรึงราคาดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือนจนถึง 30 ก.ย.นี้ โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาบริหารดูแลราคาดังกล่าวคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 248 ล้านบาทต่อเดือน
พร้อมกันนี้ยังมีมติขยายเวลาลดราคาขายปลีก NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะ (ในเขต กทม./ปริมณฑล : รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด : รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ ร่วม บขส. และรถแท็กซี่) ที่ปรับลดจาก 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 10.62 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ให้ขยายเวลาถึงสิ้นกรกฎาคม 2563 ด้วย