รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้เกียรติเป็นประธานรับมอบสินค้าอุปโภคจากกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มูลค่ามากกว่า 40 ล้านบาท เพื่อส่งมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์ ผ่านกระทรวงสาธารณสุข เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19
ผลิตภัณฑ์ที่บริจาคในครั้งนี้มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านชิ้น อันประกอบไปด้วย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือวาสลีน จำนวน 100,000 ชิ้น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าคอมฟอร์ทและเซเว่นท์เจนเนอเรชั่น จำนวน 200,000 ชิ้น และคนอร์คัพโจ๊กและพาสตาอีก 700,000 ชิ้น ทั้งนี้ ยูนิลีเวอร์มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศไทย ที่เปรียบเสมือนเหล่าฮีโร่ที่เป็นด่านหน้าคอยรับมือและต่อสู้กับไวรัสโควิด-19
โรคระบาดนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2 หมื่นคน และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4 แสนคนทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ภายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเรายังไม่สามารถชะลอการแพร่กระจายของไวรัสได้ เป็นไปได้ว่าเกินกำลังกว่าที่โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์จะรับมือไหว ด้วยเหตุนี้การบริจาคไม่ว่าจะจากภาครัฐ จากภาคเอกชน หรือเป็นการบริจาคส่วนตัวจึงมีความจำเป็นอย่างอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์
นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเห็นการแพร่กระจายที่น่ากลัวของไวรัสโควิด-19 จากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงผลกระทบร้ายแรงที่ส่งผลต่อระบบการดูแลสุขภาพและบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยให้เราปลอดภัย”
“ยูนิลีเวอร์ประเทศไทยขอมอบสบู่ น้ำยาซักผ้า เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อและผลิตภัณฑ์บริโภคแก่เหล่าฮีโร่ที่ปฏิบัติงานเป็นด่านหน้าในการรับมือกับวิกฤตนี้ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดการมอบสินค้าบริโภคอุปโภคเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อขอบคุณพวกเขา และเป็นวิธีทำให้พวกเขารู้ว่ายูนิลีเวอร์รู้สึกขอบคุณต่อทุกการกระทำของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะยับยั้งการแพร่เชื้อ โดยยูนิลีเวอร์พร้อมให้การสนับสนุนพวกเขาและยืนหยัดอยู่ข้างคนไทยทุกคน เช่นเดียวกับที่เราได้ทำมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 87 ปีที่เราตั้งอยู่ในประเทศไทย”
การบริจาคครั้งนี้เป็นการบริจาครั้งที่สองในประเทศไทย ซึ่งการบริจาคครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนที่หลากหลายและกว้างขวางของยูนิลีเวอร์ ที่ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าโครงการนี้จะให้การช่วยเหลือมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท (600 ล้านยูโร) เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ทั่วโลก