“ทอท.” เจอพิษ “โควิด-19” ผู้โดยสารลดฮวบ “สุวรรณภูมิ” เหลือแค่ 9 หมื่นคน/วัน จากปกติ 2 แสนคน/วัน “นิตินัย” เผยปรับแผนเลื่อนเปิดแซตเทิลไลต์เป็น เม.ย. 64 หลังรับเหมาเจอปัญหาวัสดุจากจีนขนส่งมาไม่ได้
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างมาก โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตามปกติจะมีผู้โดยสารที่ 200,000 คนต่อวัน ปัจจุบันมีประมาณ 90,000 คนต่อวัน โดยผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 50-60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผู้โดยสารในประเทศลดลง 20%
ทั้งนี้ จากการประเมินในช่วงไตรมาส 2/2563 (ม.ค.-มี.ค. 63) คาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมของ 6 สนามบิน ของ ทอท.จะลดลงไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนเที่ยวบินลดลง 20% สำหรับการดำเนินงานทั้งปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 62-ก.ย. 63) ขณะนี้ประเมินว่าผู้โดยสารรวมจะลดลงไม่ต่ำ 10% แน่นอน และรายได้จะลดลง มากกว่าอัตราการลดลงของผู้โดยสาร เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่ลดลงเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร (PSC) ที่จัดเก็บ 700 บาทต่อคนลดลงไปด้วย ขณะที่ผู้โดยสารในประเทศจัดเก็บค่า PSC ที่ 100 บาทต่อคนเท่านั้น
“ทอท.มีสัดส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 60% และในประเทศที่ 40% ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 62-ม.ค. 63) ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การปรับลดลงเริ่มหนักตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.”
อย่างไรก็ตาม ไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่วิกฤตและรุนแรงที่สุดนับแต่ก่อตั้ง ทอท.ยิ่งกว่าโรคซาร์ส และเมอร์ส ที่การเดินทางเข้า-ออกยังมีความปกติมากกว่า ปัจจุบันที่มีทั้งการปิดเมือง หรือประกาศห้ามกรุ๊ปทัวร์เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้จำนวนผู้โดยสารสนามบิน ทอท.ลดลงและยังไม่เห็นแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งนี้ ผลประกอบการทั้งปีจะยังมีกำไรถึงหมื่นล้านหรือไม่ ต้องประเมินสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ก่อน
จากที่ ทอท.ได้ออกโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการตารางบินเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สำหรับเที่ยวบินขาออก ที่ 6 สนามบิน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2563-26 มี.ค. 2565 โดยให้โบนัสแก่สายการบินที่ขอยกเลิกตารางการบินล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันที่ทำการบินของเที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตตามตารางการบิน สายการบินนั้น จะได้รับเงินโบนัส 200 บาทต่อผู้โดยสาร 1 คนของเที่ยวบินขาออกที่เข้ามาทดแทน โดยมีเงื่อนไขว่าที่ผู้ยกเลิกเที่ยวบินจะได้รับสิทธิพิเศษก็ต่อเมื่อมีสายการบินใหม่เข้ามาทดแทนเที่ยวบินเดิมที่ผู้ประกอบการแจ้งยกเลิกเที่ยวบิน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสายการบินใดแจ้งความประสงค์จะเข้ามาบินทดแทน ดังนั้นคาดว่าในเดือน เม.ย.สถานการณ์จะยังไม่ฟื้นตัว
@เลื่อนเปิด “อาคารแซตเทิลไลต์” วัสดุจากจีนยังนำเข้าไม่ได้ คาดไม่ปรับรับเหมา
นายนิตินัยกล่าวว่า การก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Terminal) ซึ่งจะมี 28 หลุมจอดนั้น ตามแผนจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย. 2563 และทดสอบระบบ กำหนดเปิดให้บริการเดือน พ.ย. 2563 นั้น ขณะนี้จะต้องเลื่อนการเปิดใช้ออกไปด้วย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือน เม.ย. 2564 เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องวัสดุอุปกรณ์หลายรายการที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน เนื่องจากเรือขนส่งไม่สามารถเดินทางขนส่งได้ตามกำหนด
สำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 นั้นมี Joint Venture (บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ซึ่งกรณีที่เกิดความล่าช้าขึ้นจะมีการพิจารณาต่อไปว่าจะต้องปรับผู้รับจ้างหรือไม่ ซึ่งหากความล่าช้าเป็น เหตุสุดวิสัย ทอท.ก็จะพิจารณายกเว้นการปรับ