CRC ปิดงบปี 2562 รายได้ และกำไรพุ่ง พร้อมเดินหน้าลงทุน 18,000 ล้านบาทในปี 2563 ลุยขยายสาขาใน 3 ประเทศ
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ประกาศผลประกอบการปี 2562 พุ่งทั้งรายได้และกำไร ด้วยรายได้ 222,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% กำไร 12,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก ประกาศเดินหน้าเต็มสูบตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีที่ตั้งไว้ ด้วยรายได้คาดการณ์เติบโตเฉลี่ยที่ 8-10% และ EBITDA เติบโตเฉลี่ยที่ 10-11% พร้อมต่อยอดความแข็งแกร่งของออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทฯ ปิดปี 2562 ด้วยรายได้ และกำไรที่เติบโตจากปัจจัยหลัก คือ การมีแพลตฟอร์มธุรกิจที่แข็งแกร่งในทุกประเทศ ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของเราโตในทุก Category ทั้งแฟชั่น ฟูด และฮาร์ดไลน์ อีกทั้งเรายังมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มอย่างต่อเนื่องในทุกมาร์เก็ต ด้วยระบบอีโคซิสเท็มที่แข็งแรง
ผลประกอบการปี 2562 เติบโตทั้งรายได้และกำไร ด้วยรายได้ 222,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% กำไร 12,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก
โดยบริษัทฯ จะเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีที่ตั้งไว้ ด้วยรายได้คาดการณ์เติบโตเฉลี่ยที่ 8-10% และ EBITDA เติบโตเฉลี่ยที่ 10-11%
ล่าสุดเซ็นทรัล รีเทลได้รับการจัดอันดับให้เข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 และ MSCI Global Standard Indexes ด้วยเกณฑ์ Fast-track ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพและความแข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล โดยในปี 2563 นี้ เรายังคงเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 18,000 ล้านบาท (ไม่รวมการควบรวมกิจการ (M&A)) ที่จะขยายธุรกิจในแต่ละประเทศ ดังนี้
-ประเทศไทย : ขยายสาขาใหม่ อาทิ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ 3 แห่ง, ไทวัสดุ 7 แห่ง และบ้านแอนด์
บียอนด์ 3 แห่ง พร้อมกับการขยายสาขาของกลุ่มฟู้ด และร้านค้าเฉพาะทาง เป็นต้น
-ประเทศเวียดนาม : ขยายสาขาใหม่ของบิ๊กซี / โก! อีก 6 แห่ง และปรับโฉมใหม่อีก 4 แห่ง พร้อมขยายธุรกิจ Non-Food อาทิ LookKool, Kubo, SuperSports เป็นต้น
-ประเทศอิตาลี : ปรับโฉมใหม่สาขาฟลอเรนซ์ และกรุงโรม เน้นย้ำความเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์
ลักชูรี่
ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลก และไทยจะมีความไม่แน่นอนหลายอย่างในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว, โรคระบาดโควิด-19, จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ถดถอย เซ็นทรัล รีเทลเองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน และดำเนินธุรกิจ เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และใช้เทคโนโลยี มาช่วยในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยแพลตฟอร์มของเราที่เป็น Multi-Category และ Multi-Format ทำให้เรามีความยืดหยุ่น และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่ผันผวนเช่นนี้ โดยเราใช้เป็นข้อได้เปรียบ และเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าถึงลูกค้า และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลา บนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่แข็งแรง ซึ่งพิสูจน์ได้จากยอดขายของออมนิแชแนลที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2562 ถึง 56% โดยในปีนี้เราคาดว่ายอดขายผ่านออมนิแชแนลแพลตฟอร์มจะเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 10% ของยอดขายทั้งหมดของเซ็นทรัล รีเทล” นายญนน์กล่าวปิดท้าย