"กบน." ที่มี "สนธิรัตน์" รมว.พลังงานนั่งหัวโต๊ะ เคาะปรับโครงสร้างอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล เร่งเครื่องหนุนดีเซล B10 ควักจ่ายเพิ่ม 406 ล้านบาทถ่างส่วนต่างราคา ส่งผลดีเซล B10 ลดราคาขายปลีก 0.50 บาทต่อลิตร B7 ราคาเพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร B20 ราคาคงเดิม มีผลพรุ่งนี้ (28 ก.พ.)
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ว่า กบน.ได้เห็นชอบปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลหมุนเร็วเพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันพื้นฐานตามมติคณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 21 ก.พ. 63 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ดีเซล B7 เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล B20 คงเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป โดยราคาใหม่เป็นดังนี้ B7 ราคา 26.09 บาทต่อลิตร B10 ราคา 23.09 บาทต่อลิตร และ B20 ราคา 22.59 บาทต่อลิตร
"กบน.ได้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ กลุ่มดีเซลเพื่อส่งเสริมการใช้ B10 เพื่อสนับสนุนน้ำมันพื้นฐานตามมติกบง.ที่เห็นชอบขยายส่วนต่างราคาขายปลีกดีเซล B10 ให้ต่ำกว่าดีเซล B7 ที่ 3 บาทต่อลิตร และลดส่วนต่างราคาขายปลีกดีเซล B20 ให้ต่ำกว่าดีเซล B10 ที่ 0.50 บาทต่อลิตร" นายวีระพลกล่าว
ทั้งนี้ อัตราเงินกองทุนน้ำมันดีเซลที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ มีดังนี้ B7 เดิมเก็บอยู่ 0.25 บาทต่อลิตร ปรับเป็นเก็บ 1 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาทต่อลิตร ดีเซล B10 เดิมอุดหนุน 2 บาทต่อลิตร ปรับเป็นอุดหนุน 2.50 บาทต่อลิตร หรืออุดหนุนเพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร และ B20 เดิมอุดหนุน 3.91 บาทต่อลิตร ปรับเป็นอุดหนุน 4.41 บาทต่อลิตร หรืออุดหนุนเพิ่ม 0.50 บาทต่อลิตร โดยเมื่อปรับกองทุนฯ ราคาขายปลีก B7 จะสูงกว่า B10 จำนวน 3 บาทต่อลิตรจากเดิม 2 บาทต่อลิตร ราคาดีเซล B20 ต่ำกว่า B10 อยู่ 0.50 บาทต่อลิตรจากเดิมต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตร และ B20 ต่ำกว่า B7 ที่ 3.50 บาทต่อลิตรจากเดิมต่ำกว่า 3 บาทต่อลิตร
อีกทั้งผลของการปรับเปลี่ยนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เฉพาะบัญชีน้ำมันติดลบจาก 381 ล้านบาทต่อเดือน (รวมกับบัญชีก๊าซแอลพีจีที่ส่งเข้ามา 32 ล้านบาทต่อเดือน) เป็นติดลบ 787 ล้านบาทต่อเดือน หรือการอุดหนุนจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวราว 406 ล้านบาท โดยปัจจุบัน ณ วันที่ 26 ก.พ. 63 ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 36,005 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทน้ำมันฯ 41,522 ล้านบาท ประเภทแอลพีจีติดลบ 5,517 ล้านบาท