“ไออาร์พีซี” เผยผลดำเนินงานปี 62 ขาดทุนสุทธิ 1,174 ล้านบาท ลดลง 115% จากปีก่อนที่กำไร 7,735 ล้านบาท มาจากผลกระทบสงครามการค้าฉุดราคาน้ำมันดิ่ง และกำไรขั้นต้นวูบจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) 42%
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 1,174.04 ล้านบาท ลดลง 115% เมื่อเทียบจากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 7,734.99 ล้านบาท เนื่องจากรายได้การขายในปี 2562 ลดลง 16% มาอยู่ที่ 216,577 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากราคาน้ำมันดิบลดลงและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โรงกลั่นใช้กำลังการผลิตลดลง 5% จากการปิดซ่อมบำรุง
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) 19,555 ล้านบาท หรือ 8.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับปี 2561 ลดลง 14,052 ล้านบาท หรือร้อยละ 42 เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มปิโตรเลียมและปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงอย่างมาก จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงต้นทุน Crude Premium เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯ มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 614 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงของราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (Oil Hedging) เทียบกับปีก่อนที่มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 1,238 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) มีจำนวน 20,169 ล้านบาท หรือ 8.97 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 12,201 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38%
การบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับอัตราค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างจากเดิม 300 วันเป็น 400 วัน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 5,940 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 68
ในปี 2562 ค่าเสื่อมราคามีจำนวน 8,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305 ล้านบาท จาก 8,237 ล้านบาท ในปี 2561 ต้นทุนทางการเงินสุทธิ จำนวน 934 ล้านบาท ลดลง 1,293 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้บริษัทฯ บันทึก กำไรจากการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินต้นและดอกเบี้ย (Cross Currency Swap : CCS) จำนวน 951 ล้านบาท เทียบกับ ปีก่อนขาดทุนจาก CCS จำนวน 276 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 458 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน มีกำไรอยู่ที่ 68 ล้านบาท จากเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินบาท