GPSC คาดส่งแผนธุรกิจในโครงการผลิตไฟฟ้าป้อนเมืองใหม่ย่างกุ้ง พม่า ได้ครึ่งแรกของปี 63 พร้อมมองโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าในเวียดนาม และไต้หวัน ลั่นผลดำเนินงานปี 63 โตขึ้นหลังรับรู้รายได้เต็มปีจาก GLOW และไซยะบุรี
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ แสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ แม้ว่าในปีนี้จะเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่อย่าง บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) มูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาทก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้เข้าไปศึกษารายละเอียดเพื่อจัดทำแผนธุรกิจในโครงการผลิตไฟฟ้าป้อนเมืองใหม่ย่างกุ้ง พม่า หลังจากกลุ่ม ปตท.ได้รับคัดเลือกจาก New Yangon Development Company (NYDC) ของพม่าให้เป็นผู้ดำเนินการโครงการดังกล่าวนั้น คาดว่าจะสามารถส่งแผนงานให้กับทางการพม่าพิจารณาได้ภายในครึ่งแรกปีหน้า
เบื้องต้นพบว่า ทางเมืองใหม่ย่างกุ้งต้องการโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการในระยะแรก (Quick Win) เพื่อให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้เชื้อเพลิงชนิดใด ดังนั้นต้องพิจารณาความเป็นไปได้ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ ทำได้ตามกำหนดเวลาที่กำหนดหรือไม่ เพื่อตอบสนองแผนยุทธศาสตร์ในเรื่องการขยายการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามแนวชายแดนย่างกุ้ง
“พื้นที่ NYDC เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา แต่มีแผนที่จะจัดตั้งเป็นเขตอุตสาหกรรม เป็นเขตพื้นที่อาศัย ทาง NYDC ก็อยากให้มีโครงการนำร่องด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ซึ่ง NYDC ก็ไม่ทราบความต้องการใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่ รู้แต่ว่าพื้นที่มีขนาดเท่านี้ และขอให้เริ่มต้นได้ก่อน เป็นสิ่งที่เขาอยากให้เป็น ตอนนี้อยู่ระหว่างการดูข้อกำหนดต่างๆ ที่เขาให้มา ครึ่งแรกปีหน้าก็น่าจะสามารถส่งแผนให้เมียนมาได้" นายชวลิตกล่าว
ส่วนโครงการลงทุนโรงไฟฟ้า Gas to Power กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ในพม่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากหน่วยงานรัฐหลังจากที่ได้ส่งแผนไปให้ทางการพม่านานพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมรายละเอียดเป็นระยะๆ
นายชวลิตกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังมองโอกาสการลงทุนในเวียดนาม และไต้หวัน ประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยแผนการผลิตไฟฟ้าของไต้หวันในส่วนของโครงการพลังงานลมได้มีการดำเนินการไปค่อนข้างมาก ส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งบริษัทก็เข้าไปดูว่าจะมีโอกาสเข้าไปลงทุนในส่วนใดได้บ้าง โดยยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนได้
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2563 คาดว่าทั้งในส่วนรายได้และกำไรจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปี ทั้งในส่วนของการเข้าซื้อกิจการ GLOW และการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าใหม่ในปี 62 ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำลิก 1 ในลาว, โครงการศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จังหวัดระยองแห่งที่ 4 (CUP-4) และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขณะที่ในปี 63 จะเริ่ม COD โครงการผลิตไฟฟ้านวนครส่วนขยาย
สำหรับโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมจะเปิดรับซื้อ 700 เมกะวัตต์ ในปี 2563 นั้น บริษัทฯ เห็นว่าแนวคิดที่ดี แต่ทั้งนี้บริษัทขอดูรายละเอียดเงื่อนไขการเปิดรับซื้อไฟฟ้าที่ชัดเจนออกมาก่อน จึงจะสามารถกำหนดรูปแบบธุรกิจและตัดสินใจได้ว่าจะเข้าร่วมดำเนินการหรือไม่อย่างไร