เปิดประชาพิจารณ์ราคาอ้อย 6 ธ.ค.นี้ก่อนเสนอ “กอน.” เคาะช่วงบ่ายวันเดียวกัน ชาวไร่อ้อยคาดจะเคาะที่ 750 บาทต่อตันและหวังรัฐจะช่วยหางบประมาณหนุนยกระดับราคาให้ถึง 1,000 บาทต่อตัน แต่ยอมรับว่ายังไร้สัญญาณที่ชัดเจน พร้อมขอ สอน.ทบทวนมติ ครม.ลดสัดส่วนอ้อยไฟไหม้
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและหัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า วันที่ 6 ธันวาคมนี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จะเปิดรับฟังความคิดเห็น (ประชาพิจารณ์) ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ความหวาน 10 ซีซีเอสที่ประมาณ 720 บาทต่อตัน และหลังจากนั้นช่วงบ่ายจะมีการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เห็นชอบเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
“ราคา 720 บาทต่อตันนั้นเป็นไปตามโครงสร้างการคำนวณราคาใหม่ที่เป็นการคำนึงถึงกลไกกองทุนน้ำตาลทรายที่นำมาบวกไปเลยซึ่งหากแบบเดิมคงไม่ถึง แต่ชาวไร่อ้อยส่วนใหญ่ก็ยังคาดหวังว่าเมื่อเข้าไปสู่ที่ประชุม กอน.แล้วน่าจะได้เป็น 750 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งยังไม่รวมกับการช่วยเหลือจากรัฐที่ก่อนหน้านี้ชาวไร่ได้เรียกร้องให้รัฐจัดหางบประมาณกลางปีในการเพิ่มปัจจัยการผลิตอ้อยเพื่อทำให้ราคาอ้อยได้ในระดับ 1,000 บาทต่อตันตามที่รัฐบาลเคยหาเสียงไว้ ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะช่วยในระดับใดแน่” นายนราธิปกล่าว
สำหรับราคาอ้อยที่ตกต่ำนั้นเป็นผลมาจากระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกที่ใช้ในการคำนวณในฤดูผลิตปี 62/63 อยู่ที่เฉลี่ยเพียง 13.2 เซ็นต์ต่อปอนด์เมื่อเทียบกับการคำนวณปีก่อนอ้างอิงที่ 13.6 เซ็นต์ต่อปอนด์ซึ่งจะเห็นว่าเป็นทิศทางที่ลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่ใช้คำนวณฤดูนี้แข็งค่าเฉลี่ย 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ใช้คำนวณที่ 32.6 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่า 1 บาทต่อเหรียญกระทบให้ราคาอ้อยหายไปเฉลี่ยตันละ 20 บาท
นอกจากนี้ ชาวไร่ยังได้เสนอให้ สอน.พิจารณาแนวทางการนำเสนอ ครม.ให้ทบทวนมติการลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ที่มติ ครม.เมื่อ 11 มิ.ย. 62 ซึ่งกำหนดให้ฤดูหีบแรก (ปี 62/63) โรงงานน้ำตาลจะต้องรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 30% ต่อวัน เป็น 50% ต่อวัน หรืออ้อยไฟไหม้ต่ออ้อยสดในสัดส่วน 50 ต่อ 50 แทนเนื่องจากเห็นว่าฤดูหีบที่ผ่านมาการตัดอ้อยสดยังทำได้เพียง 40% เท่านั้นและมีหลายปัจจัยที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินงานดังกล่าว ทั้งราคาอ้อยที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ในระดับถึง 1,000 บาทต่อตันหรือไม่ รถตัดอ้อยยังมีปริมาณที่ต่ำไม่เพียงพอต่อการตัดเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งชาวไร่อ้อยยืนยันว่าในแง่สังคมการเผาอ้อยไฟไหม้ก็เป็นแรงกดดัน แต่ในข้อเท็จจริงของการทำงานก็ต้องเข้าใจชาวไร่อ้อยด้วย
นายนราธิปกล่าวว่า โรงงานจะทยอยเปิดหีบอ้อยฤดูผลิตปี 62/63 วันที่ 1 ธันวาคม และหลายฝ่ายคาดว่าผลผลิตอ้อยน่าจะไม่ถึง 110 ล้านตันเนื่องจากประสบกับภาวะภัยแล้ง ขณะที่ปัญหาภัยแล้งและราคาอ้อยที่ตกต่ำต่อเนื่องมา 3 ปีส่งผลให้เกษตรกรมองหาพืชอื่นทดแทน เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งภาคอีสานมีความชัดเจนที่ไม่มีการปลูกอ้อยข้ามแล้ง ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าพื้นที่ปลูกอ้อยจะลดลงและจะส่งผลต่อปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูหีบปี 63/64 จะลดลงต่อเนื่อง